ผู้ป่วยเสียชีวิต! รถตู้ 2 คัน ขับแช่เลนขวางรถพยาบาล อ้างใส่หูฟังไม่ยินเสียง
หนุ่มซิ่งเก๋งขวางหน้ารถกู้ภัยอ้างกินยาแก้แพ้จนขับรถหลับใน
คลิปวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสมุทรปราการ บันทึกเหตุการณ์ขณะช่วยเหลือผู้ป่วยคนหนึ่ง ในซอยวิทยุการบิน ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ ระหว่างรอรถพยาบาลมารับตัว แต่ระหว่างรถกำลังวิ่งไปตามถนนสุขุมวิท ใกล้กับทางเข้า ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ กลับมีรถยนต์สีขาวขับขวาง และโบกให้รถพยาบาลจอด ก่อนที่ชายคนขับซึ่งมีท่าทางเมาจะลงมาต่อว่าเจ้าหน้าที่ในรถ ลักษณะว่าเปิดสัญญาณไฟ เสียงสัญญานฉุกเฉิน วิ่งโดยไม่มีเหตุจริง และพยายามเปิดท้ายรถพยาบาล ทำให้เจ้าหน้าต้องอธิบายและให้ชายคนนี้ขับรถตามยังจุดที่ผู้ป่วยรออยู่ ซึ่งชายคนนี้ก็ขับรถตามไป
กระทั่งรถพยาบาลไปถึงบ้านผู้ป่วย ในซอยวิทยุการบิน ก็พบว่ามี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ พยายามช่วยชีวิตผู้ป่วยอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นแบบนี้ชายคนที่ขับรถขวางก็อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป
แต่ระหว่างนั้นก็ยังโทรศัพท์ไปยังศูนย์วิทยุหน่วยกู้ชีพปราการ ลักษณะสอบถามด้วยคำถามวกวนและป่วน เจ้าหน้าที่จึงติดตามและแจ้งตำรวจให้ควบคุมตัว เพราะเข้าข่ายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่
จนสามารถคุมตัวและทราบชื่อว่า นายสัมฤทธิ์ มณีฤทธิ์ อายุ 38 ปี ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ ส่วนผู้ป่วย หลังหน่วยกู้ชีพปฐมพยาบาลตามขั้นตอน ก็เร่งนำส่งโรงพยาบาลทันที แต่เสียชีวิตหลังถึงโรงพยาบาล
ล่าสุดทางภรรยาและญาติของผู้ป่วยที่เสียชีวิต เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ โดยให้ข้อมูลว่า “ผู้เสียชีวิต” ไม่เคยมีโรคประจำตัว ก่อนเกิดเหตุทราบว่า มีอาการชักเกร็ง และหมดสติ คนในบ้านจึงเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยกันปั้มหัวใจ ระหว่างนั้นพบว่าผู้ป่วยอยู่ในวิกฤติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงวิทยุร้องขอรถโรงพยาบาลมารับ แต่กว่ารถพยาบาลจะมาถึงชีพจรของผู้ป่วยก็เริ่มอ่อนแล้ว
ซึ่งญาติเชื่อว่า หากรถพยาบาลไม่ถูกขัดขวาง อาจจะไม่เกิดความสูญเสีย และยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดีกับ “นายสัมฤทธิ์” ถึงที่สุด ส่วนศพของผู้เสียชีวิตจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในจังหวัดเพชรบูรณ์
ขณะที่การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของ “นายสัมฤทธิ์" พบแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 190 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถกีดขวางเส้นทางรถพยาบาล
นอกจากนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือกระทำโดยเจตนาเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม
