ลูกชายวัย 17 ปี ใช้ปืนยิงคู่อริพ่อเสียชีวิตก่อนหลบหนี
คาดนายช่างบุกยิงเพื่อนสวท.พิษณุโลก 3 ศพ ปมแค้นส่วนตัว
ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส.ต.อ. ธีรยุทธ จันทร์คง ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ดุสิต ใช้อาวุธปืน CZ ขนาด 9 มม. ยิง นายปิยะพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรม นอนจมกองเลือดเสียชีวิต บริเวณบันไดทางขึ้นสถานีตำรวจนครบาลดุสิต หลังเกิดเหตุจนท.สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทันที
ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจ จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นแฟลตตำรวจ อยู่ห่างจากสถานีตำรวจดุสิต ประมาณ 50 เมตร บริเวณพื้นยังคงมีรอยเลือดผู้เสียชีวิตตกอยู่
สอบถาม น.ส. รัตติยา จันทรประทัก เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อคืนนี้ได้จัดงานสังสรรค์ จับฉลากของขวัญปีใหม่ ซึ่งจัดกันเป็นประจำทุกปี โดยตำรวจผู้ก่อเหตุได้มาร่วมงานด้วย เนื่องจากรู้จักกับผู้ใหญ่ในงาน แต่ไม่รู้จักกับ นายปิยะพงษ์ ผู้เสียชีวิตมาก่อน
จากนั้น ตำรวจผู้ก่อเหตุ ได้เดินไปส่งผู้ใหญ่ที่แฟลต ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร และเดินกลับมาที่บริเวณสังสรรค์อีกครั้ง ระหว่างนั้น นายปิยะพงษ์ ผู้เสียชีวิต ได้พูดคุยหยอกล้อกันในกลุ่มเพื่อน แต่ตำรวจผู้ก่อเหตุเข้าไปห้ามปราม นายปิยะพงษ์จึงโต้ตอบกลับไป จึงคาดว่า อาจเป็นสาเหตุให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ
ซึ่งระหว่างที่ทั้งคู่มีปากเสียงกัน กลุ่มเพื่อนได้เข้าห้ามปราม แต่ไม่เป็นผล นายปิยะพงษ์ล้มลงที่รถ ส่วนตำรวจผู้ก่อเหตุมีท่าทีจะเดินออกไป แต่หันหลังกลับมาใช้อาวุธปืนยิงนายปิยะพงษ์ 2 นัด นายปิยะพงษ์จึงวิ่งไปหน้าบันไดทางขึ้นสถานีตำรวจ แต่ตำรวจผู้ก่อเหตุ ได้กระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จนนายปิยะพงษ์ล้มลงเสียชีวิต
นางสาวรัตติยา กล่าวถึง นายปิยะพงษ์ ผู้เสียชีวิตว่า เป็นคนนิสัยดี ชอบช่วยเหลือ และไม่ค่อยมีปัญหากับใคร ส่วนตำรวจผู้ก่อเหตุปกติจะเป็นคนนิ่ง เงียบ ไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่ถ้าเมาขึ้นมามักจะคุมตัวเองไม่อยู่และอารมณ์ร้อน ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจผู้ก่อเหตุ มีอาการมึนเมา จากการดื่มสุรา ที่แฟลตของตนเองมาแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.จตุพร พลภักดี ผกก.สน.ดุสิต เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัดจริง โดยหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนสามารถติดตามสิบตำรวจเอกธีรยุทธ จันทร์คง ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปรามสน.ดุสิต มาดำเนินคดีได้ทันที จากการสอบปากคำพยาน ผู้ก่อเหตุ และผู้เสียชีวิต ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ส่วนปมสังหารนี้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน เนื่องจากอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหาแก่สิบตำรวจเอกธีรยุทธ 3 ข้อหา ได้แก่ พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในที่สาธารณะ และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนการให้ออกจากราชการอยู่ระหว่างการเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามขั้นตอน
ขณะช่วงเช้าที่ผ่านมา นางจันเพ็ญ สิทธิบุ่น มารดาของ นายปิยะพงษ์ พร้อมครอบครัว ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตบริเวณหน้า สน.ดุสิต โดยนางจันทร์เพ็ญ กล่าวว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุนั้นเป็นตำรวจ จากนี้ครอบครัวจะนำร่างของ นายปิยะพงษ์ ไปบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพ ที่ วัดจันทร์สโมสร บางกระบือ
