เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)มีรายงานว่า มีหนังสือร้องเรียนถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการหน่วย ให้ตรวจสอบพฤติกรรม ของนายตำรวจระดับ "ผู้บังคับการ(ผบก.)" ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) นายหนึ่งที่เพิ่งย้ายไป รับตำแหน่ง
"บิ๊กปั๊ด" ควันออกหู ลูกน้องดื้อ สั่งจเรใหญ่สอบ หลังผู้ว่าฯแฉบ่อนจันทบุรี -ตราด แพร่เชื้อโควิด-19
เดี๋ยวไม่เชื่อ !! นำ "ตชด." ถือป้ายประท้วง "นายอมหัวคิวคุมม็อบ" แถลงแค่เรื่องเข้าใจผิด
หนังสือร้องเรียนจากนายตำรวจตำแหน่งระดับสารวัตร ขอให้ตรวจสอบ พล.ต.ต.หัวหน้าหน่วย ผบก. ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีพฤติกรรม ไม่เหมาะสม
หนังสือร้องเรียนบรรยายพฤติกรรม ว่า นายพลคนดังกล่าว เพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง มีพฤติกรรมเรียกให้หัวหน้าหน่วยระดับ สารวัตรและผู้กำกับการต้องส่งเงินรายเดือน ให้ผบก.คนนี้ทุกเดือน เดือนละ 10,000-50,000บาท ทำให้ตำรวจในสังกัดอึดอัดใจ ขัดกับธรรมเนียมปฏิบัติของหน่วยตชด. ทั้งยังใช้อำนาจบังคับบัญชาข่มเหง รังแกให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องหาผลประโยชน์โดยมิชอบมาส่งให้ตัวเอง หากไม่ทำใช้อำนาจข่มเหง
หนังสือร้องเรียนยังระบุว่า ผบก.คนนี้ไม่อยู่ประจำหน่วย ทั้งที่รับผิดชอบพื้นที่ต่างจังหวัด แต่มักอยู่กทม. อ้างอยู่กับผู้ใหญ่ อ้างสนิทสนมกับพล.ต. อ.ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อ้างเป็นเด็กในบ้านของผู้มากบารมีรัฐบาล
"ตั้งแต่ผบก.คนนี้มารับตำแหน่งก็ทำให้วัฒนธรรมของหน่วยตชด.เสียหาย เรียกเก็บเงินรายเดือนในทุกครั้งที่ประชุมบริหาร ตัดสวัสดิการอาหารกลางวันของผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้ตำรวจในสังกัดต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น พฤติกรรมของนายตำรวจคนนี้ทำให้หน่วยเสื่อมเสียเกียรติ ผู้ใต้บังคับบัญชาอึดอัด คับข้องใจมาก"หนังสือร้องเรียนจาก พ.ต.ท.สังกัดตชด.ระบุในเอกสารร้องเรียน
ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ชี้แจงว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการไปยัง พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ให้ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวอย่างถึงที่สุด พร้อมทั้งกำชับให้ พล.ต.ท.วิชิต ปักษา ผบช.ตชด. ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวตามระเบียบอีกส่วนหนึ่ง และให้รายงานข้อเท็จจริงขึ้นมาโดยเร็ว
"ผบ.ตร.กำชับในเรื่องลักษณะดังกล่าวมาโดยตลอด หากมีการตรวจสอบพบว่ามีผู้กระทำผิดจริงหรือมีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่มีละเว้น" รองโฆษกตร.กล่าว