หญิงสวมสิทธิ “เราชนะ” ยันใช้ชื่อ-สกุลนี้มาตลอด รับไม่เคยมีบัตรประชาชน
เผยแพร่
ปรับปรุงล่าสุด
เจ้าของร้านอาหารชื่อดังเข้าแจ้งความถูกสวมบัตรประชาชน หลังคนร้ายไปทำบัตรเพื่อรับเงินเราชนะ แต่ไม่ผ่านเกณฑ์ เพราะธนาคารแจ้งว่ามีเงินเกิน 5 แสน ก่อนขอเบิกเงินในบัญชีกว่า 1 ล้าน ขณะที่อำเภอผู้ออกบัตร เร่งคืนสถานะ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี ล่าสุดรวบตัวได้แล้ว

ลุ้นรับเพิ่ม ขยายสิทธิ "เราชนะ" คลังชงครม.วันนี้ ลงทะเบียนแล้ว ทบทวนสิทธิด่วน ก่อนหมดเขต
ยาย ต่อคิวรอลงทะเบียนเราชนะ เป็นลมล้มกลางถนน
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2564 จากกรณีนางเบญจวรรณ หอมสมบัติ อายุ 59 ปี เจ้าของร้านอาหารแม่เบญปลาเผา ที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร้อยตำรวจเอกอดินันท์ หมดจด รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเขาพนม จังหวัดกระบี่ หลังถูกคนร้ายปลอมแปลงบัตรประชาชนเพื่อไปรับสิทธิ์เราชนะ รวมทั้งพยายามเบิกเงินในบัญชีที่มีอยู่กว่า 1 ล้านบาท
ซึ่งผู้เสียหายมาทราบเรื่องเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารกรุงไทย สาขาหาดใหญ่ ได้โทรแจ้งว่ามีคนใช้ชื่อผู้เสียหาย พยายามเบิกเงินออกจากบัญชี ขอให้มายืนยันตัวตนที่สาขา จึงเดินทางไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากติดธุระอยู่นอกพื้นที่ เมื่อนำบัตรประชาชนให้ทางธนาคารกลับไม่สามารถใช้การได้ เพราะถูกยกเลิกไปและมีการออกบัตรใหม่ แต่รูปบัตรเป็นหญิงสาวคนอื่นไปแล้ว โดยทางธนาคารได้อายัดบัญชีไว้ก่อน เพื่อป้องกันความเสียหาย
จุดเริ่มต้นเรื่อง นี้เกิดจาก มีหญิงคนหนึ่ง อ้างว่าชื่อ เบญจวรรณ หอมสมบัติ มาทำบัตรประชาชน แต่จากการตรวจสอบพบว่าข้อมูลไม่ตรงกันกับ ฐานข้อมูลเดิมในทะเบียนราษฏร์ เธอคนนี้อ้างว่าทำศัลยกรรมมา และมีคนเซ็นรับรอง อำเภอจึงออกบัตร ประชาชนให้ หญิงคนนี้นำบัตร ประชาชนไปลงทะเบียน รับเงิน “เราชนะ” แต่ ธนาคารแจ้งว่าบัญชีของหญิงคนดังกล่าวมีเงิน 1 ล้านบาท ซึ่งไม่ตรงตามเงื่อนไข ที่ระบุว่าต้องไม่เกิน 5 แสนบาท จึงจะเข้าร่วมโครงการนี้ได้ หญิงคนนี้ จึงเปลี่ยนใจ ขอเบิกเงิน ออกมา 5 แสนบาทแทน แต่ธนาคารแจ้งว่า เบิกเงินต่างธนาคารโดยไม่มีสมุดบัญชีไม่ได้ และเห็นพิรุจ จึงอายัด บัญชีดังกล่าว พร้อมติดต่อ นาง เบญจวรรณ อีกคน (เจ้าของบัญชีตัวจริง) ว่ามีตนจะถอนเงิน
หลังลงบันทึกไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเขาพนมแล้ว นางเบญจวรรณ หอมสมบัติ ผู้เสียหาย ได้เดินทางไปที่ว่าการอำเภอเขาพนม พบกับนายอิทธิเชษฐ์ โภคินธนวัฒน์ ปลัดอาวุโสอำเภอเขาพนม พร้อมทั้งสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้ออกบัตรบอกว่าได้ออกบัตรให้กับหญิงคนดังกล่าวตามชื่อดังกล่าวจริง เพราะหญิงคนดังกล่าวได้พาพยานเป็นชายคนหนึ่งมาเซนต์รับรอง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน พร้อมด้วยปลัดอำเภอเขาพนม ได้เดินทาง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเขาพนม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งได้ทำบัตรใหม่ให้กับนางเบญจวรรณตัวจริง พร้อมยกเลิกบัตรที่ออกให้กับหญิงสาวรายดังกล่าวแล้ว ส่วนคนร้ายที่อ้างตัวเป็นผู้เสียหายนั้น พนักงานสอบสวน และทางชุดสืบสวนได้ออกติดตามตัวหญิงรายดังกล่าว ซึ่งทราบว่าอยู่ใน ตำบลเขาดิน อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินคดีแล้ว
มีรายงานล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนางเบญจวรรณ คนที่ 2 และชายที่เป็นคนเซ็นรับรอง พร้อมกับนางเบญจวรรณ หอมสมบัติ ตัวจริง มาสอบสวนที่ สถานีตำรวจภูธรเขาพนม เบื้องต้นนางเบญจวรรณ คนที่ 2 ให้การว่าใช้ชื่อนี้มาตลอด แต่ไม่เคยมีบัตรประชาชน และเมื่อทางรัฐบาล มีโครงการเราชนะ ให้คนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนไปลงทะเบียน จึงเดินทางไปที่ธนาคาร แต่ไม่มีบัตรประชาชน ทางธนาคารจึงแจ้งให้ไปทำบัตรมาใหม่ ก็เดินทางไปทำบัตรประชาชน จนได้บัตรมาแล้วก็ไปธนาคาร แต่ไม่มีเจตนาที่จะไปถอนเงิน
ล่าสุดขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำนางเบญจวรรณ คนที่ 2 อย่างละเอียด ส่วนความผิดนั้น จะให้ทางอำเภอมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่งทางนางเบญจวรรณคนที่ 2 ก็ยอมรับให้ดำเนินคดี แต่บอกเพียงว่า ไม่มีเจตนาปลอมแปลงใด แต่ไม่ยอมบอกว่า เกิดที่ไหน อย่างไร พร้อมยืนยันว่าตัวเองเป็นคนไทย เพียงแต่ไม่เคยมีบัตรประชาชน
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/tags/ข่าววันนี้