คดีเบลอทำลายตำรวจ! ผบ.ตร.ยันยังไร้หลักฐาน "บิ๊กตร." เอี่ยวไอซ์ 1.5 ตัน ไม่ช่วยคนพิเศษ ไม่มีคลื่นใต้น้ำ

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 (รอง ผบช.ภ.6) พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รองผบก.ส ส.ภาค6 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส.แถลงกรณีคดีจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางไอซ์ 1.5 ตัน เมื่อต.ค.62 ต่อมาปรากฏเอกสารหลุด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.เร่งรัดคดีและให้คลี่คลายประเด็นที่มีการพาดพิง นายตำรวจ ยศ พ.ต.อ. และ พล.ต.ท. จนมีการหยิบยกไปอภิปรายในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่งตัวแทนแจ้งความกองปราบปราม ดำเนินคดีกับสื่อที่ระบุว่าตนเอง คือ พล.ต.ท.ที่ถูกกล่าวหา

ผบ.ตร.นัดเคลียร์ แถลงใหญ่ปมกล่าวหา "บิ๊กตร." พัวพันไอซ์ 1.5 ตัน

เอกสารว่อน! "บิ๊กตร."ข้องใจคดีจับไอซ์ 1.5 ตันไม่คืบ พยานซัด "พล.ต.ท.- พ.ต.อ.-พ.อ." พัวพันแต่ไม่อยู่ใ...

เปิดโพสต์ "พล.ต.ท.ต่อศักดิ์" ก่อนแจ้งความกองปราบ ถูกกล่าวหาพันไอซ์ 1.5 ตัน โต้หนังสือ "บิ๊กตร."

พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รองผบก.สส.ภาค6 ชี้แจงความคดีนี้ มีความเชื่อมโยงจากนักค้ายาเสพติดรายใหญ่นายฐปนันท์ ธรรมรัตน์ธาดา  หรือนายอธิษฐาน แซ่ตั้ง ผู้ต้องหา 56 หมายจับที่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จนมาจับกุมรถพ่วงขนไอซ์ 1.5 ตัน จับกุมขยายผลผู้ต้องหา 8 คน หลบหนีอีก 2 คน  ต่อมาปี 63 จับกุมนายเกิดชนะ มีนา และให้การซัดทอดพลเรือน 4 คน ข้าราชการ 4 คน  โดยในกลุ่มนี้ ออกหมายจับทหารยศ พ.อ. ส่วนตำรวจ 2 นาย พล.ต.ท.และพ.ต.อ. ในชั้นนี้ยังไม่มีหลักฐานที่จะออกหมายจับในคดีสมคบค้ายาได้ เป็นเพียงการซัดทอดเท่านั้น กรณีกล่าวอ้างว่ามีการพบกันที่ฝั่งเมียววดี ของเมียนมา ก็เพียงกล่าวอ้าง

ผบ.ตร.กล่าวเสริมว่า คดีนี้ในชั้นนี้ยังไม่มีหลักฐานพาดพิง และไม่จำเป็นต้องเรียกมาสอบ กรณีถูกซัดทอดเราก็ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน ยังไม่พบความเกี่ยวข้อง แต่ยืนยันว่าสอบสวนต่อ ใครเกี่ยวข้องหากพอต่อไปก็ต้องดำเนินการ แต่ตอนนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงตามที่กล่าวอ้าง

“เรื่องคดีนี้ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เอกสารราชการบางส่วนหลุดออกไปไปเผยแพร่ทางสื่อ แต่เอกสารคือส่วนหนึ่งของการสืบสวนสอบสวนแค่ส่วนน้อยของข้อเท็จจริงบางส่วนหลุดออกไป คนไม่เห็นทั้งหมด วิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถามประเด็นมากมาย หาว่ามีการช่วยเหลือใครสิ่งเหล่านี้บ่อนทำลายความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม”

ผบ.ตร.กล่าวยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุชาติ ทำงานในส่วนของสืบสวนคดี หารือเรื่องนี้กับตนมาตลอด  กรณีมีเอกสารหลุดออกไปก็มีการตรวจสอบอยู่ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้ง พล.ต.อ.สุชาติ และพล.ต.ท.ที่ถูกกล่าวอ้าง ก็พูดคุยกันดีไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีคลื่นใต้น้ำในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนไม่รู้จักคลื่นใต้น้ำ 

“เรื่องนี้ถ้ามันจะเจออะไร มันต้องเจอ มันยุติแค่นี้ไม่ใช่ ถ้ามันเจอมันเจอแล้ว การสืบสวนขยายผลไปตอนนี้หลักฐานมันยังไม่ชน โดยเฉพาะคนที่ถูกพาดพิง ถ้ามีมันต้องรั่ว ออกสื่อแล้วมันมีหรือเปล่า เรื่องนี้ไม่มีการช่วยเหลือใคร ไม่ใช่คนพิเศษอะไร”

“อะไรที่เบลอไม่ชัดถูกหยิบทำลายความน่าเชื่อถือ สิ่งที่น่ากลัวคือบ่อนทำลาย ทำลายองค์กรไม่ได้ ทำลายคนก็ได้ ผิด ถูก ไม่มีใครมาปิดอะไรได้ ปิดเรื่องแบบนี้ไม่มีทาง ถ้าใครมีข้อมูลยินดีรับหมด ฟังเรื่องนี้ให้ใช้วิจารณญาณ เป็นเพียงข้อเท็จจริงบางส่วน มันไม่มีใครช่วยใครได้ ใครที่เกี่ยวเราไม่เคยละเว้น คดีนี้ตำรวจภาค 6 ทำคดีถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ขยายผลเยอะมาก”

“ทำอะไรว่าตามพยานหลักฐานน้ำหนัก แค่คนคนเดียวพูดแต่เราทำให้ชัดเจน เพราะหากเบลอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย บ่อนทำลายความเชื่อถือ ความไม่แน่ใจ ในกระบวนการยุติธรรมจะทำลายเพื่ออะไร คดีนี้ใครมีข้อมูลอะไรให้แจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่แน่ใจตำรวจแจ้ง ปปง ป.ป.ส. อัยการ หรือออกสื่อก็ได้เเรามีช่องทางเยอะทำความจริงให้ปรากฏ” พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว

ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้ที่ผู้ต้องหาพาดพิงรองต๊ะก็เขาบอก รู้จัก คนทำบ่อนรู้จักให้เงินให้ทองอะไรก็กล่าวอ้าง ภาค 6 ตรวจสอบอยู่ เขาอ้าง เคลียร์ตำรวจ พาดพิงถึงก็เช็ค   เมื่อพูดมาขนาดนี้ต้องดูมา ส่วนพล.ต.ท.อีกคนที่อ้างก็สงสัยเหมือนกันว่ามาได้อย่างไร ทำไมอ้างว่าเจอคนนี้ แต่จำวันเวลาไม่ได้ แต่ทีไปค้ายา3ครั้งจำได้ ยืนยันว่าเรื่องนี้ ยังไม่จบ คืบหน้าหากมีหลักฐานทีเด็ด เจอใครเกี่ยวก็ต้องดำเนินการ