โวยเพื่อนบ้าน ติดลำโพงหน้าบ้าน เปิดดังทั้งวันทั้งคืน

เพื่อนบ้านเปิดเพลงเสียงดังแถมท้าต่อย ดต.สุดทนชักปืนเคลียร์ เกิดลั่นเจ็บ 1

ความเดือดร้อนครั้งนี้ทำให้บางครอบครัวถึงขั้นต้องย้ายบ้านหนีไปอยู่ที่อื่น เสียงที่ว่านี้เป็นอย่างไร ไปชมคลิปบางช่วงบางตอน

นี่เป็นคลิปที่ชาวบ้านภายในซอยเทศบาลบางปู 120 จ.สมุทรปราการ ร้องเรียนผ่านทางเพจข่าวสารเมืองปราการ V2 ว่ามีบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้าน โดยมีการติดลำโพงไว้หน้าบ้านหลายตัวพร้อมเปิดเสียงโหยหวนคล้ายกับเสียงซ่าของคลื่นวิทยุตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน

ทีมข่าว PPTV ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ภายในหมู่บ้านซีวิว จ.สมทรปราการ โดยทีมข่าวเดินทางไปถึงและเฝ้าสังเกตการณ์ประมาณ 2 ชั่วโมง พบว่าบ้านหลังดังกล่าวยังคงเปิดเสียงคล้ายเสียงซ่าของคลื่นวิทยุสลับกับเสียงเพลงของคลื่นวิทยุอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ทีมข่าวพยายามเรียกเจ้าของบ้านเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงแต่ก็ไม่มีใครออกมา

ทีมข่าวจึงได้ทดลองใช้แอปพลิเคชันวัดระดับเสียงในโทรศัพท์มือถือ วัดระดับเสียงจากลำโพงที่กำลังเปิดอยู่ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ โดยเริ่มจากวัดบริเวณที่ห่างจากตัวบ้านที่ติดลำโพงประมาณ 100 เมตร พบว่า ระดับเสียงอยู่ที่ 50-60 เดซิเบล
-เมื่อเดินเข้าใกล้ถึงบริเวณหน้าบ้านที่ติดลำโพง ระดับเสียงเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 80-90 เดซิเบล
-และลองวัดจุดตรงบริเวณหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน ระดับเสียงอยู่ที่ 70-80 เดซิเบล
โดยค่าดังกล่าวเป็นเพียงการวัดจากแอปพลิเคชันของโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ไม่ใช่อุปกรณ์วัดระดับเสียงตามมาตรฐาน ซึ่งหากอ้างอิงจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ว่า เสียงที่เป็นอันตราย หมายถึง เสียงที่ดังเกิน 85 เดซิเบลเอ ที่ทุกความถี่ ส่วนใหญ่พบว่า โรงงานอุตสาหกรรมมีระดับเสียงที่ดังเกินมากกว่า 85 เดซิเบลเอ เป็นจำนวนมากซึ่งสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพทางกายและจิตใจ

เพื่อนบ้านที่ได้รับความร้อน คือ น.ส.ดารัตน์ ก๊กบางยาง เจ้าของบ้านหลังติดกัน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ไม่นานเพื่อนบ้านก็นำลำโพงมาติดหันมาทางบ้านตน ช่วงแรกติดแค่ 2-3 ตัว แต่ช่วงหลังนำมาติดเพิ่มเป็น 5-6 ตัว ทั้งบริเวณชั้นบนและล่าง ซึ่งมีการเปิดเพลงสลับกับเสียงซ่าของคลื่นวิทยุตลอดเวลา ทั้งกลางและวันทั้งคืน บางคืนตี 1-2 ก็เปิดเสียงดังมาก ทำให้ตนเองนอนไม่หลับ ใช้ชีวิตปกติไม่ได้เพราะมีเสียงซ่าสร้างความรำคาญตลอดเวลา

ที่ผ่านมาเคยไปแจ้งเจ้าของบ้านพบเป็นชายสูงวัย อายุประมาณ 60 ปี อยู่บ้านเพียงลำพัง เจ้าของบ้านอ้างว่า ที่ต้องเปิดเสียงดังเพราะบ้านตนปล่อยคลื่นเสียงสัญาณต่ำใส่บ้านเขาก่อน จึงเปิดเสียงซ่าวิทยุตอบกลับไป ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าคลื่นสัญญาณต่ำคืออะไร เพราะที่บ้านไม่ได้เปิดเสียงอะไรเลย

น.ส.ดารัตน์ บอกปัญหานี้ทำให้เขาต้องย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่นเพราะทนกับเสียงดังไม่ไหว ลูกหลานไม่ได้หลับไม่ได้นอน แม้จะมีการพูดคุยกันหลายครั้งแต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องกล้องวงจรปิดที่ติดบริเวณชั้น 2 ของบ้าน 3 ตัว ซึ่งกล้องหันไปที่ห้องนอนของลูกสาวตน จึงกังวลเรื่องความปลอดภัยอยากให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว

ทีมข่าวไปสอบถาม ผู้ดูแลหมู่บ้านคือ นางอธิฐาน ศรีมณีรัตน์ บอกว่า พฤติกรรมของเจ้าของบ้านหลังนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เจ้าของบ้านค่อนข้างเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร ช่วงแรกๆไม่ได้เปิดเสียงดังขนาดนี้ แต่ช่วงหลังมีการเพิ่มจำนวนลำโพงและเพิ่มความดังขึ้นเรื่อยๆจนเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงประมาณ 10 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน ที่ผ่านมาตนก็เคยเป็นตัวแทนไปเจรจาพูดคุยแต่ก็แก้ไขไม่ได้

ขณะที่เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้ามาตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวโดยชายสูงวัยเจ้าของบ้านได้ยินยอมเปิดบ้านให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบว่า

ภายในพบว่าหลายจุดภายในบ้านมีอุปกรณ์เครื่องเสียงตั้งอยู่หลายเครื่อง พร้อมทั้งลำโพงที่ยังไม่ได้เปิดใช้งานอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนพร้อมขอความร่วมมือให้ไม่เปิดเครื่องเสียงหรือลดเสียงให้เบาลง แต่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด

เพื่อนบ้านเล่านาทีลั่นไก เสียงร้องขอชีวิต ดับยกครัว 5 ศพ จ.ส.อ.ปืนคามือ เปิดข้อมูลธุรกิจครอบครัว!