โฆษก ทร.ปัดทหารติดโควิดเที่ยวผับหรูทองหล่อ แจงไทม์ไลน์ละเอียดยิบ
หมอจุ๊ก หนุน“กักตัวที่บ้าน”เชื่อเตียงไม่พอ
คำบอกเล่าของ หนึ่งในผู้รอดชีวิต ขณะโดยสารรถทัวร์ของบริษัท 407 พัฒนา จำกัด หมายเลขทะเบียน 10-7387 อุดรธานี แต่ระหว่างทางเกิดเพลิงไหม้รุนแรง จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
เธอเล่าว่า ขึ้นรถโดยสารคันดังกล่าวจาก บขส.อุดรธานี โดยเธอนั่งอยู่ในห้องวีไอพีชั้นล่าง ด้านหลังคนขับ ระหว่างทางก็นอนหลับบ้าง รู้สึกตัวบ้าง ก่อนจะได้ยินเสียงระเบิดดัง แล้วรถสั่น-ส่ายไปมา จึงสะดุ้งตื่น ก็มองเห็นประกายไฟบริเวณด้านหลังรถ จึงพยายามจะออกทางประตูปกติ แต่พอเปิดประตูพบว่ามีแก๊สพุ่งเข้ามาจึงรีบปิด ในใจคิดว่าไม่รอดแน่ ๆ กระทั่งมีชายคนหนึ่งตั้งสติมองสำรวจหาทางออกฉุกเฉิน ไปยังห้องคนขับจึงพากันรีบปีนออกทางประตูคนขับได้อย่างหวุดหวิด ส่วนผู้โดยสารคนอื่นไม่ทราบว่าชุลมุนมากน้อยแค่ไหน เพราะต่างก็พยามหนีเอาตัวรอด
สภาพของรถโดยสารบริษัท 407 พัฒนา จะเห็นว่ารถถูกไฟไหม้เสียหาย เหลือเพียงโครงเหล็ก ส่วนด้านในที่เป็นเบาะที่นั่งโดยสารก็ถูกเผาไหม้วอดทั้งหมด
รถทัวร์คันนี้ ออกเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุดรธานี มุ่งหน้าปลายทาง สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต กรุงเพทมหานคร ระยะทางทั้งหมด 570 กิโลเมตร แต่หลังวิ่งมาได้เพียง 143 กิโลเมตร ถึงบริเวณอำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น รถก็เกิดยางระเบิดแล้วไฟไหม้ คลอกผู้โดยสารเสียชีวิต 5 คน
การตรวจสอบทราบว่ารถคันดังกล่าวมีผู้โดยสารและพนักงานทั้งหมด 33 คน ผู้โดยสารส่วนใหญ่นั่งอยู่บนชั้นสองของรถ มีเพียงไม่กี่คนที่อยู่ด้านล่าง โดยศพของผู้เสียชีวิตทั้งหมด มี 4 คนที่พบอยู่บริเวณทางหนีไฟด้านหลังของรถชั้นสอง ลักษณะคล้ายกำลังพยายามหนีไปด้านล่าง ส่วนอีกคนอยู่บริเวณเบาะนั่งทางขวา ด้านหน้าสุด คาดว่าอาจจะนอนหลับ จึงหนีไม่ทัน ขณะที่ผู้ที่รอดชีวิตส่วนใหญ่ หนีลงมาทางบันไดด้านหน้า
ขณะที่การสอบสวน นายพัศดี คำคอน อายุ 48 ปี พนักงานขับรถบอกว่า หลังขับรถออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร จังหวัดอุดรธานี จนมาถึงบ้านแฮด เกิดยางล้อหลังฝั่งขวาระเบิด จึงขับรถต่อมาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อชะลอรถ แต่เกิดไฟไหม้ที่ช่วงท้าย และไฟลุกลามรวดเร็ว แม้จะพยายายามประคับประคองรถและจอดเปิดประตูให้ผู้โดยสารลง แต่ก็มีบางคนที่หลบหนีออกมาไม่ทัน จนได้รับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
เบื้องต้นตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดในตัวคนขับ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงแจ้งข้อหาเบื้องต้น ขับรถเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต พร้อมนำตัวเข้าห้องควบคุมผู้ต้องหาของสถานีตำรวจภูธรบ้านแฮด
ส่วนการช่วยเหลือ ช่วงบ่ายที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เดินทางเข้าเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บ และตรวจสอบข้อมูลเพื่อเตรียมทำเรื่องชดเชยสินไหมให้กับผู้ประสบเหตุ โดยทางบริษัทรถทัวร์มีประกันภัยของ บริษัทวิริยะประกันภัยวงเงิน 1.5 ล้านบาท พ.ร.บ.รถยนต์ 5 แสนบาท ประกันภัยชั้น 1 จำนวน 5 แสนบาท และประกันภัยผู้โดยสารที่นั่งละ 1 แสนบาท