“สุนัขแบนด็อก” กัดหัวเจ้าของบาดเจ็บสาหัส ภรรยาเผยเลี้ยง 3 ปี นอนด้วยกันทุกคืน
เจ้าของ “ไจแอนท์” เสียชีวิตแล้ว หลังถูกกัดเจ็บสาหัส
ครอบครัวนายวิศิษฐ์ สงวนมาก อายุ 56 ปี ผู้เสียชีวิต จากการถูกเจ้าไจแอ้น สุนัขสายพันธุ์แบนด็อก ขย้ำหัวเดินทางมาพร้อมกับญาติและพระสงฆ์ 1 รูป นำเอกสารมาขอรับศพที่โรงพยาบาลชลบุรี แต่เนื่องจากเอกสารบางอย่างไม่ครบ จึงจะขอมารับศพในวันพรุ่งนี้ โดยทางญาติขอดูหน้าศพนายวิศิษฐ์ก่อนกลับ พร้อมเปิดเผยว่า ผู้ตายนั้นรักสุนัขตัวนี้มาก ไม่เคยตีเลย แต่ทำไมถึงกัดมากมายแบบนี้ ก็ขอเป็นอุทาหรณ์คนที่ชอบเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบลู
ด้านนางวันเพ็ญ คุ้มคง ภรรยาผู้ตาย ยังอยู่ในอาการเสียใจบอกเพียงสั้นๆว่า ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ร้องไห้จนน้ำตาไม่มี ก็เอากลับคืนไม่ได้ ซึ่งจะมีกำหนดการจะตั้งศพที่วัดบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ส่วนกำหนดฌาปนกิจศพ ต้องมีการปรึกษากันอีกครั้ง
ส่วนบรรยากาศที่บ้านของนายวิศิษฐ์ ในอ.บางละมุง จ.ชลบุรี วันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา มีญาตินั่งจับกลุ่มเสียใจกับการเสียชีวิต ส่วนในบ้านยังปิดเงียบ ไม่มีคนอยู่ มีสุนัขตัวอื่นๆที่เลี้ยง อยู่ภายในบ้านเท่านั้น
ส่วนเจ้าไจแอนท์ สุนัขพันธุ์แบนด็อกเพศผู้ วัย 2 ปี ที่กัดเจ้าของได้รับบาดเจ็บสาหัสในพื้นที่ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ถูกนำมาเลี้ยงไว้ในพื้นที่ ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านทาวเฮ้าท์ 2 ชั้น มีลานกว้างพื้นที่หน้าบ้าน มีรั้วรอบขอบชิด โดยเบื้องต้นทางเจ้าของใหม่ได้ล่ามมันด้วยโซ่ไว้ในรั้วบ้าน เบื้องต้นไม่มีอาการก้าวร้าว ในขณะที่ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ไจแอนท์ยังมีอาการซึมบ้างเล็กน้อยเนื่องจากแปลกที่ แต่เมื่อมันได้อยู่ใกล้หรือได้เล่นกับเจ้าของใหม่ มันก็แสดงอาการดีใจออกมาแบบเห็นได้ชัด และดูเหมือนเข้ากับเจ้าของใหม่ได้เป็นอย่างดีเหมือนกับคุ้นเคยกันมานาน
ด้าน นายศึกษา เกตุนาค อายุ 37 ปี เจ้าของใหม่และเป็นสมาชิกกลุ่มเค้กพิตบูลทีมสารพัดพิท บอกว่าตนเองเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบูลเทอร์เรียอยู่แล้วทั้งหมด 4 ตัว สาเหตุที่ขอไจแอนท์มาดูแลก็เนื่องจากมีลักษณะคล้ายสุนัขตัวเดิมที่ตายไป ในขณะเดียวกันก็เกิดความสงสารจึงได้ขอเอามาไว้ดูแล แต่เนื่องจากไจแอนท์เป็นสุนัขที่เคยกัดคนแล้วก็ต้องเลี้ยงด้วยความระมัดระวังและคอยสังเกตพฤติกรรมด้วย เนื่องจากสุขนัขที่เคยกัดคนแล้วก็อาจจะกัดซ้ำอีก ซึ่งตอนที่ไจแอนท์มาถึงกับบ้านใหม่ ก็ดูเศร้าๆ และไม่กินข้าวเนื่องจากแปลกที่ เบื้องต้น จะต้องพาเดินออกกำลังปรับสภาพและพฤติกรรมไปทีละเล็กน้อยเพื่อสร้างความคุ้นเคยและคลายเครียดไปในตัว
พร้อมฝากถึงผู้ที่จะเลี้ยง สุนัขพันธุ์แบนด็อก ควรที่จะศึกษาให้ชัดเจนว่าจะเลี้ยงดูเขายังไง เริ่มตั้งแต่เล็ก ต้องดูพ่อแม่หมา ว่าเขาดุไหม ให้ขอคำแนะนำพยามยามเกาะกลุ่มกับผู้ที่เลี้ยงสายพันธ์นี้อยู่ เพื่อดูคุณภาพ มีความรู้ สอบถามเขาวิธีเขาให้เขาแนะนำอย่าไปเลี้ยงแบบไม่รู้อะไรเลย
ทีมข่าวสอบถามไปยัง นายณัชพล สุพัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงสุนัขพิตบูล และเป็นเจ้าของเว็บไซต์ Pitbullzone หรือ มาร์ค พิทบูล อธิบายว่า ปกติแล้วสุนัขพันธุ์ดุร้ายจากต่างประเทศ บ้านเรามีกฎหมายที่ห้ามนำเข้า แต่ยังไม่มีกฎหมายว่าห้ามเลี้ยงหรือเพาะพันธุ์ และคนก็เลี้ยง เพาะพันธุ์ขายจนกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะกฎหมายก็ไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง ปัจจุบันจึงมีคนนิยมเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ดุร้ายกันอยู่มาก
มาร์ค พิทบูล ยังอธิบายอีกว่า สำหรับสุนัขพันธุ์แบนด็อก เป็นสุนัขพันธุ์ผสมระหว่างพันธุ์อพิตบูล เทอร์เรีย และ บลูมาสทิฟฟ์ ในอดีตนิผสมพันธุ์เพื่อใช้งานในการล่าหมูป่า เนื่องจากหมูป่ามีขนาดตัวที่ใหญ่ น้ำหนักเยอะ ซึ่งในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เคยมีการต่อต้านไม่ให้มีการผสมพันธุ์สุนัขสองสายพันธุ์นี้ และนั่นจึงเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์แบนด็อกอีกด้วย
ส่วนสุนัขที่พันธุ์ดุร้าย มีข้อมูลที่กำหนดไว้จากกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือห้ามนำเข้า ก็คือ พันธุ์อเมริกันพิตบูล พันธุ์ร็อตไวเลอร์ พันธุ์โดเบอร์แมน และพันธุ์ฟิล่า บราซิลเลียโร่ หากฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับ 5,000 บาท และถูกอายัดหรือกักสุนัขไว้ที่สถานกักกันสัตว์ หรือหากลักลอบนำเข้ามาเลี้ยงจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ที่ต้องมีการควบคุมพิเศษ แต่ปัจจุบันก็มีการลักลอบเลี้ยงและซื้อขายกันจำนวนมาก