วันนี้ 26 ส.คช. 2564 นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พร้อมภรรยา นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม
หลังตำรวจออกหมายเรียกลุงพล ให้มารับทราบข้อหาเพิ่มในคดีที่น้องชมพู่วัย 3 ขวบ กลายเป็นศพบนภูเหล็กไฟ ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2563 โดยตำรวจนัดไว้ช่วง 13.00 น.
"ลุงพล"รับทราบข้อหาคดีไม้-ทำร้ายนักข่าว
ทนายเดชา เผย ข้อหา“ลุงพล”เทียบเท่าฆ่าคนตาย
แต่ลุงพล เดินทางมาช่วงประมาณ 15.40 น. โดยมีสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นทั้งหมดก็รีบเข้าไปด้านในทันที ยังไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ ตำรวจมีการแจ้งข้อหากับลุงพลไปแล้ว 3 ข้อหา คือ
1.พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร
2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
3. กระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
มีรายงานว่า เมื่อวานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ได้เรียกลุงพล มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนปล่อยกลับไป และได้ยื่นฟ้องข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปโดยสอดคล้องกับพยานหลักฐานและพฤติการณ์ทั้งหลายที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน จึงให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มในฐานฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 15 ปีถึง 20 ปีและให้สอบคำให้การของผู้ต้องหาไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อประกอบไว้ในสำนวนการสอบสวนต่อไป