มาไล่เรียงลำดับเหตุการณ์เริ่มต้นจากเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาได้มีการประกาศตามหาครอบครัวหนึ่ง ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ โดยมีสมาชิกประกอบด้วย นายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี พ่อ น.ส.นฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี แม่ ด.ช.นฤเบศก์ บุญชู อายุ 12 ปี ลูกชายคนกลาง และด.ญ.หริญดา บุญชู อายุ 7 ปี ลูกสาวคนเล็ก ได้หายออกจากบ้านใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย โดยขาดการติดต่อกับทางญาติ ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ทั้งครอบครัว
ตำรวจเร่งตามหา พ่อ แม่ ลูก 4 ชีวิต หายตัวปริศนา
จำคุก 2 ปี 3 เดือน “ลุงพล” ปรับอีก 4.5 หมื่น รุกป่าสร้างพญานาค รอลงอาญา-รื้อถอนใน 30 วัน
ซึ่งนายนิรุตน์ ผู้เป็นพ่อได้แจ้งกับญาติว่าจะไปเที่ยว แต่ไม่บอกว่าจะไปที่ไหน และทิ้งลูกสาวคนโต วัย 19 ปี ให้อยู่บ้านตามลำพัง จากนั้นลูกสาวก็ไม่สามารถติดต่อครอบครัวได้อีกเลย
ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายสอบ บุญชู พ่อของนายนิรุตน์ บอกว่าถึงตอนนี้ลูกชายยังไม่ติดต่อมา และไม่รู้ว่าไปไหนกันแน่ ปกติลูกชายและครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด นานสุดก็แค่ 7-8 วันก็กลับมาที่บ้าน แต่รอบนี้ต้องไปแจ้งความคนหายเพราะว่าหายไปนานเกิน 10 วัน ส่วนลูกชายจะมีปัญหาครอบครัว หรือปัญหาการเงินหรือไม่ นายสอบ บอกว่าตนเองไม่ทราบ เพราะลูกชายย้ายไปอยู่ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม นานแล้ว
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับลูกสาววัย 19 ปีให้ข้อมูลว่า ตนเองเรียนอยู่ที่จ.เชียงใหม่ และจะกลับมาบ้านที่ จ.สุโขทัย เพื่อมาหาครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่เมื่อมาถึงบ้านไม่พบใครและไม่สามารถติดต่อใครได้เลย ตนได้แต่ร้องไห้คิดถึงพ่อแม่ และคิดถึงน้องๆล่าสุดที่ได้คุยกับพ่อก็เพิ่งเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยพ่อได้แชตข้อความถามว่ากินข้าวยัง หลังวันที่ 10 ติดต่อไม่ได้เลย
จำคุก 2 ปี 3 เดือน “ลุงพล” ปรับอีก 4.5 หมื่น รุกป่าสร้างพญานาค รอลงอาญา-รื้อถอนใน 30 วัน
จากการไล่เรียงไทม์ไลน์พบว่า นายนิรุตน์ ได้ขับรถกระบะสีเทา หมายเลขทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย ออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.ไปที่ จ.เชียงใหม่ ตอนนั้นลูกสาวคนโตโทรศัพท์ตามหาแต่ติดต่อไม่ได้
จนวันที่ 7 เม.ย. น.ส.นฤมล ได้ขายรถกระบะให้กับเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่ง ที่เมืองเลยในราคา 385,000 บาท หลังจากนั้นวันที่ 9 เม.ย. รถถูกขายต่อไปให้กับเต็นท์รถมือ2 ที่จ.อุดรธานี และพบว่า น.ส.นฤมล โอนเงินต่อไปยังบริษัทไฟแนนซ์ 374,230 บาท เพื่อปิดค่างวดรถ ทำให้เหลือเงินจากการขายรถ 10,770 บาท
ขณะที่เจ้าของเต็นท์รถมือสอง ประเสริฐผลยูสด์คาร์ สาขาอุดรธานี ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงการรับซื้อรถกระบะสีเทา หมายเลขทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย มาอีกทอดหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 เม.ย. อย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง และทางเต็นท์รถไม่มีส่วนรู้เห็นในการหายตัวไปของครอบครัวนี้แต่อย่างใด
หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ทางเต็นท์รถได้ไลฟ์สดขายรถกระบะคันดังกล่าว จึงเป็นเบาะแสว่าพบรถกระบะอยู่ที่เต็นท์รถแห่งนี้
ต่อมาตำรวจสืบสวน จ.อุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทประเสริฐผลยุสต์คาร์ สาขาอุดรธานี เต็นท์รถมือสองที่ซื้อรถกระบะคันดังกล่าวจากครอบครัวนี้ พบนายนพพล พลรักษา หรือเฮียเพียว อายุ 30 ปี ผจก.บริษัทฯและพนักงานขาย ได้นำตรวจสอบรถปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีเทา ทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย พร้อมกับนำหลักฐาน สัญญาการซื้อขายออกมาให้ตรวจสอบ
โดยผู้จัดการระบุว่า ซื้อต่อมาจาก นายณัฐวุฒิ คำรักเกียรติเจริญ อายุ 33 ปี ชาว จ.เลย เมื่อวันที่ 9 เม.ย.โดยให้พนักงานไปรับรถที่ จ.เลย ทำสัญญาซื้อขายกันอย่างถูกต้อง ก่อนนำมาให้พนักงานขายไลฟ์สดขายในวันที่ 10 เม.ย.
ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการซื้อขายทอดกันมาเป็นมือที่ 4 และเชื่อว่าเป็นการซื้อขายรถกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกครั้ง มีเอกสารประกอบครบถ้วนชัดเจน มีรูปถ่ายของคุณนฤมลฯ ประกอบหลักฐานในการซื้อขายกับเต็นท์รถที่รู้จักเป็นมือแรก พร้อมอยากฝากถึงครอบครัวคุณนฤมลฯว่า อยากให้ออกมาให้ข่าวหรือให้ข้อมูลความจริงเกี่ยวกับรถคันนี้ ล่าสุดลูกสาวเผยติดต่อครอบครัวได้แล้ว
ขณะที่ข้อมูลจากทางชุดสืบสวน สภ.บ้านไร่ ได้ประสานไปยังจุดตรวจต่างๆ ที่คาดว่ารถของนายนิรุตน์ จะวิ่งผ่านพบว่าเมื่อวันที่ 7 เม.ย. กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพรถยนต์ของนายนิรุตน์ วิ่งผ่านบริเวณสี่แยก อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร โดยมุ่งหน้าไปทาง จ.นครสวรรค์ เพียงจุดเดียว นอกจากนี้ จากการติดตามสัญญาณมือถือของทั้ง 4 คนพบว่าได้มีการปิดโทรศัพท์มือถือและยกเลิกเบอร์โทรศัพท์ไปแล้ว ในเขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
จากการติดตามเสาะหาข้อมูล ก็ไม่พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่า นายนิรุตน์ และ น.ส.นฤมล อาจจะมีสาเหตุจากปัญหาการเงินกับบุคคลในพื้นที่ คาดว่าน่าจะเป็นเงินมูลค่าหลาย 10 ล้านบาท ซึ่งตำรวจจะต้องตรวจสอบต่อไปว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของทั้ง 4 คน หรือไม่
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าล่าสุด ลูกสาวคนโต สามารถติดต่อครอบครัวทั้ง 4 คนได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน
เซอร์ไพรส์! “หมาก ปริญ” ขอ “คิมเบอร์ลี่” แต่งงานที่สวิตเซอร์แลนด์