วันนี้ 3 พ.ค.2565 ทีมข่าวลงพื้นที่ คลินิกทำฟันแห่งหนึ่ง ที่มีข้อมูลว่าเป็นคลิกนิกที่หมอฟันในคลิปทำงานอยู่ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทางพนักงานคลินิก อ้างว่าหมอฟันคนดังกล่าวออกไปหาหมอ หลังตรวจพบว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 กระทันหัน ทั้งที่ช่วงเช้าหมอฟันคนดังกล่าว ยังทำงานปกติ แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว โดยอ้างว่าติดเคสคนไข้หลายคน
หมอฟันชื่อดังใน Tiktok สร้างเรื่องคอลหาสาว ทำอนาจารเด็กไม่ถึง 15 ปี
ข้าราชการกระทรวงดัง ด่ากราดหยาบคายใส่ปลัด ขณะออกตรวจร้าน โวยข่มเหงประชาชน
ขณะที่ทีมข่าวพยายามติดต่อหาหมอฟันคนดังกล่าวตามเบอร์ที่ติดไว้ในหน้าโปรไฟล์Tiktok ส่วนตัว โดยสามารถติดต่อได้ล่าสุดเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 22.00น. มีผู้หญิงรับสายบอกว่าเป็นแฟนของหมอ แต่ “ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะไม่มีเวลาดูโซเชียล ร่วมถึงไม่สะดวกให้ข้อมูลเพราะกำลังจะไหว้พระ” เมื่อทีมข่าวขอให้ช่วยประสานหมอเพื่อชี้แจ้งข้อมูลแฟนของหมอก็อ้างว่า “หมอไม่สะดวก เพราะพรุ่งนี้มีเคสคนไข้ต้องดูแล และต้องเตรียมตัวไปต่างจังหวัดด้วย”
สำหรับหมอฟันคนดังกล่าว บนโลกโซเชียลว่ามีการแชร์แฉพฤติกรรมอนาจาร ชอบวิดีโอคอลช่วยตัวเอง จากข้อมูลพบว่า หมอฟันคนนี้มักจะหาเหยื่อที่เป็นเป็นเด็กสาวจัดฟันหน้าตาดี ที่ทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ในหน้าโปรไฟล์ TikTok ก่อนแอดไลน์ไปหา และขอวิดีโอคอลคุยด้วย
โดยวันเกิดเหตุช่วงกลางเดือนเมษายน หมอทักไลน์หาเหยื่อโดยใช้รูปโปรไฟล์ปลอม แนะนำตัวว่าเป็นหมอฟันชื่อดัง ขอวิดีโอคอลแนะนำเรื่องการจัดฟันของคลินิก พยายามโน้มน้าวให้เหยื่อเปลี่ยนจากจัดฟันแบบเหล็กดัดเป็นจัดฟันใสกับตัวเอง และให้ออกไปหา แต่ผู้เสียหายปฏิเสธ
จากนั้นไม่นานหมอคนนี้ก็เริ่มพูดคุยเรื่องลามกอนาจาร ขอดูหน้าอกและอวัยวะเพศ ก่อนช่วยตัวเองโชว์จนสำเร็จความใคร่ ซึ่งน้องผู้เสียหายได้อัดหน้าจอขณะวิดีโอคอลเป็นหลักฐาน
แม่ของเหยื่อ เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุลูกมีภาวะเครียดจิตตก กังกลว่าจะถูกตามมาทำอนาจาร ขณะที่ตัวของแม่เองก็รู้สึกอึดอัดที่ลูกต้องเจอพฤติกรรมอนาจารแบบนั้น ทำให้ขณะนี้แม่ตัดสินใจจะเข้าแจ้งความกับตำรวจ ให้ดำเนินคดีกับหมอฟัน และจะร้องเรียนทันตแพทยสภาเพื่อให้ตรวจสอบจรรยาบรรณต่อไป
ขณะเดียวกัน ทพ.สมยศ นะลำเลียง เลขาธิการทันตแพทยสภา ได้ออกมาแถลงขั้นตอนดำเนินการกับหมอฟันที่ปรากฏในคลิปที่ ระบุว่าเบื้องต้นทางทันตแพทยสภาทราบข้อมูลพฤติกรรมทันตแพทย์คนดังกล่าวมาจากข่าว ซึ่งไม่มีคลิปวิดีโอและภาพถ่ายของทันตแพทย์ที่ก่อเหตุอย่างชัดเจน ทำให้หลังจากนี้ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาและประวัติทันตแพทย์ผู้ก่อเหตุว่าอยู่สังกัดใดมีใบประกอบวิชาชีพถูกต้องหรือไม่
โดยปกติแล้วการดำเนินคดีทางจริยธรรมจะต้องมีผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวโทษมายังทันตแพทยสภาก่อน จึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่ในกรณีดังกล่าวหากคณะกรรมการเห็นว่า เป็นเรื่องที่มีสื่อและประชาชนในความสนใจและมีหลักฐานเอาผิดชัดเจน คณะกรรมการสามารถร้องทุกข์เองได้ในความผิดทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงในวิชาชีพทันตกรรม
โดยวันที่ 12 พฤษภาคมนี้จะมีการประชุมทันตแพทยสภาจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ก่อนเรียกทันตแพทย์ของดังกล่าวมาสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการเอาผิดตามโทษคดีวิชาชีพต่อไป
เลขาธิการทันตแพทยสภา เผยว่า หากพบว่าทันตแพทย์คนนั้นกล่าวเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมจริง จะดำเนินการทางคดีจริยธรรมในเรื่องดังกล่าวทันที โดยแบ่งโทษเป็น 4ระดับ คือ 1.เรียกว่ากล่าวตักเตือนกรณีที่ตรวจพบแล้วไม่เป็นความผิดร้ายแรง 2. ภาคทัณฑ์ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร 3.พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรมตามระดับความรุนแรง และ 4.เพิกถอนใบประกอบวิชาชีพทันตกรรม
แต่หากมีการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมแล้วมีการแอบอ้าง ทันตแพทยสภาจะแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีฐานแอบอ้างเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมต่อไปด้วย