
“ทนายกฤษณะ” ยันไม่ได้ทิ้งคดี แต่ติดโควิด-19
เผยแพร่
เจอมรสุมรุมเร้าอย่างต่อเนื่องสำหรับ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของแม่แตงโม เพราะล่าสุดมีคุณลุงวัย 77ปี มาร้องเรียนกับ ทนายษิทรา บอกว่าได้แต่งตั้งทนายกฤษณะเพื่อช่วยว่าความในคดีที่ถูกฟ้องแพ่ง แต่สุดท้ายหลังทนายความไม่ยอมยื่นหลักฐานการชำระหนี้ต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นเหตุทำให้แพ้คดีและต้องชดใช้หนี้ถึง 1.75 ล้านบาท
นายสังเวียน คัมภิราบุตร วัย 77ปี นำมาร้องเรียนกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมกับนำผลของคำพิพากษาศาลจังหวัดสระบุรี เพื่อร้องเรียนกรณีการแต่งตั้ง นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของแม่แตงโม เป็นทนายความต่อสู้ว่าความคดีในชั้นศาล แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายแพ้คดี
นายสังเวียน เล่าว่า ตั้งแต่ปี 2539 ตนเองได้ทำสัญญากู้เงิน 1.4 ล้านบาท โดยนำโฉนดที่ดินของตนเองและภรรยาไปจำนอง แต่เจ้าหนี้เขียนในสัญญาว่าตนเองและภรรยา ขอกู้คนละ 1ล้าน รวมเป็น 2ล้านบาท
ทนายกฤษณะ รับอึ้งเมื่อรู้ว่าแม่ให้"เต้ มงคลกิตติ์"ทำคดี
"กฤษณะ" กลับลำขอเป็นกาวใจ "เต้-เดชา"
เมื่อสอบถามเจ้าหนี้ก็บอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก เราพวกเดียวกัน เอาเงินมาใช้เมื่อไหร่ก็เอาโฉนดคืนไป”จากนั้นตนเองก็ทยอยใช้หนี้จนชำระครบทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมกว่า 2 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 4-5 ปี ต่อมาปี 2563 ปรากฎว่าผู้เสียหายถูกเจ้าหนี้ยื่นฟ้องคดีแพ่งกับศาลจังหวัดสระบุรี โดยอ้างว่ายังไม่จ่ายหนี้ พร้อมรวมดอกเบี้ยด้วยเป็นเงิน 1.75 ล้านบาท
จากนั้นทนายกฤษณะ ได้เสนอตัวว่าจะช่วยเหลือคดี โดยคิดค่าทนาย 35,000 บาท และยังมีการขอเงินอีกหลายครั้ง เช่น ขอเงินอีก 20,000 บาท รวมเงินทั้งสิ้นกว่า 75,000 บาท ซึ่งระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาล ทนายกฤษณะ กลับไม่ยื่นหลักฐานการชำระหนี้ให้กับศาล และยังไม่ยอมให้ตนเองเข้าร่วมฟังการไต่สวนด้วย
จนกระทั่งวันที่ 31 พ.ค. 2565 ศาลจังหวัดสระบุรีมีคำตัดสินให้ตนเองแพ้คดี ต้องชดใช้เงิน 1.75 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งหากไม่ชดใช้จะยึดบ้านและที่ดินจำนองใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ สุดท้ายเมื่อถูกตัดสินแพ้คดีจึงเดินทางมาปรึกษาทนายษิทรา เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
ขณะที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ มองว่า กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายทิ้งคดีผิดมารยาททนายความ ซึ่งผู้เสียหายสามารถไปยื่นร้องเรียนกับสภาทนายความได้ โทษมีตั้งแต่ตักเตือน - ไปจนถึงถอดถอนใบอนุญาตทนายความ
ส่วนของคดีแพ่งที่มีคำพิพากษาออกมาแล้ว การขอพิจารณาใหม่คดีน่าจะยาก แต่คดีอาญายังสามารถทำได้ โดยชี้เป้าอาจจะต้องดำเนินคดีกับผู้เบิกความพร้อมกับเรียกค่าเสียหาย เพราะจากที่อ่านคำพิพากษาและตรวจสอบเอกสารการชำระเงินของผู้เสียหาย คนเบิกความและทำเอกสารนั้นเป็นคนเดียวกัน จะอ้างว่ายังไม่ได้เงินชำระหนี้ไม่ได้ ซึ่งอาจเข้าข่ายการเบิกความเท็จ
ด้านนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ชี้แจงยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้ยื่นคำให้การต่อศาลนั้น ชี้แจงว่าเป็นเพราะขณะนั้นตนเองป่วยเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งต้องพักรักษาตัวหลายวัน และได้ส่งตัวแทนไปยื่นใบรับรองแพทย์ต่อศาลเพื่อขอเลื่อนคดี แต่ศาลมองว่าตนเองประวิงเวลา ศาลจึงเริ่มกระบวนการไต่สวนฝ่ายโจทก์ ขณะที่ฝ่ายจำเลยทำได้เพียงซักค้านอย่างเดียว เมื่อผลคดีออกมาแพ้จึงทำให้ในลุงสังเวียนไม่พอใจ
ส่วนประเด็นที่อ้างว่ามีการห้ามไม่ให้เข้าฟังการไต่สวนนั้น ทนายกฤษณะ ยืนยันว่าไม่เคยห้าม แต่นายสังเวียนไม่ยอมเข้ามาฟังเอง
ส่วนกรณีที่นายสังเวียนบอกว่าตนเองยืมเงินไปหลายครั้งนั้น ทนายกฤษณะ ชี้แจงว่าเป็นการชำระเงินค่าคดีความซึ่งมีการเก็บเป็นงวดๆ อย่างไรก็ตามส่วนนี้ถ้าทำให้ตนเองเสียหาย ก็จะใช้สิทธิ์ในการฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาทเช่นกัน
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline