ภาพจากเฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ก่อเหตุ กำลังถูกตั้งคำถามว่า ทำไมกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ถึงมีออาวุธปืนไว้ในครอบครอง แล้วเป็นการครอบครองแบบถูกกฎหมายหรือไม่ จะเห็นว่า แต่ละคนมีการถืออาวุธปืนในมือคนละ 1-2 กระบอก และมีชนิดที่แตกต่างกันออกไป
ชายคนแรก ถือปืนยาวขนาด .22
ชายคนที่ 2 มือซ้ายเป็นปืนสั้น ไม่แน่ใจชนิดปืน มือขวาถือปืนลูกโม่
ชายคนที่ 4 ถือปืนสั้นขนาด 9 มม. ทั้งสองมือ
ชายคนที่ 5 ถือปืนลูกซองขนาด 12 ที่เป็นปั๊มแอคชั่น
ชายคนสุดท้าย ถือปืนสั้น ไม่แน่ใจขนาด
กราดยิงอุบล ดับเพิ่มอีก 1 รวม 3 ศพ ผบ.ตร.บินด่วนลุยสางคดี
จับโจ๋! ยิงกันสนั่นเมืองอุบลฯ คาดโกรธเคืองกันมาก่อน
ขณะที่อีกหนึ่งภาพ ชายคนแรกจากฝั่งซ้ายมือ ถือปืน ขนาด 9 มม. กึ่งอัตโนมัติ
ขายคนที่ 2 ถือปืนลูกซองขนาด 12
ส่วนชายคนที่ 3 คาดว่าน่าจะเป็นขนาด .22
นายฐิติธร บุพพารัมณีย์ นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจอาวุธปืนแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า อาวุธปืนตามภาพดังกล่าว บุคคลทั่วไปสามารถครอบครองได้ ไม่มีชนิดไหนที่ห้ามครอบครอง แต่การจะครอบครองก็ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนภาพปลอกกระสุนชิ้นหนึ่งที่พบในจุดเกิดเหตุ มีลักษณะคล้ายปลอกกระสุนปืนอาก้า จึงเกิดข้อสงสัยว่าหากเป็นอาก้าจริง กลุ่มนี้เหล่านี้ครอบครองอาก้าได้อย่างไร เพราะปืนชนิดนี้มีใช้อย่างถูกต้องในกลุ่มตำรวจ ทหารเท่านั้นนายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจอาวุธปืนแห่งประเทศไทย ระบุว่า ได้เห็นภาพนี้แล้ว ยังไม่แน่ใจว่า เป็นกระสุนปืนอาก้าหรือไม่ ไม่กล้าฟันธง แต่ส่วนตัวคาดว่าน่าจะใช่ อยากให้รอตำรวจสรุปอีกครั้ง โดยหากเป็นอาก้าจริง กลุ่มผู้ก่อเหตุจะมีความผิดทางกฎหมายอีกกระทงแน่นอน เนื่องจากเป็นชนิดปืนที่บุคคลธรรมไม่สามารถครอบครองได้
ส่วนที่มีการแสดงความเห็นกันว่า การครอบครองอาวุธปืนในประเทศไทยดูจะเป็นเรื่องง่าย นายฐิติธร ระบุว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่หลักการการครอบครอง แต่ขึ้นอยู่กับบุคคลที่ครอบครองว่า ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่