คลิปเหตุการณ์สั้น ๆ ไม่กี่วินาที ที่ผู้เสียหายถ่ายไว้ได้ โดยในคลิปเป็นภาพของทหาร ยศ ส.อ. คนหนึ่งที่สวมเพียงกลางเกงบ็อกเซอร์ กับเสื้อยืดสีขาว และกำลังสวมกลางเกงขายาวทับ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในบ้านพักทหาร จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. น.ส.ออยผู้เสียหาย เล่าว่า ชายในคลิปเป็นผู้ร่วมงานของเธอ ได้บุกเข้ามาที่บ้านพัก และพยายามจะลวนลาม ทั้งโอบกอด และพยายามจะถอดเสื้อผ้า
ทภ.2 ตั้งกรรมการสอบวินัย ส.อ.โพสต์อนาจารคุกคามทางเพศ
รัฐบาล เสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุจ่าคลั่งกราดยิง
แต่ทางผู้เสียหายขัดขืน พร้อมทั้งหว่านล้อมบอกว่ามีสามีแล้วบ้าง มีประจำเดือนบ้าง จนสุดท้ายชายคนนี้ก็ยอมจะไม่ทำร้ายเธอและกลับออกจากบ้านไป
ผู้เสียบอกว่า หลังเกิดเหตุเธอแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบเรื่องแล้ว แต่ทางผู้บังคับบัญชาก็ขอให้ปิดเรื่อง เพราะกลัวหน่วยงานจะเสียหาย จนถึงตอนนี้เธอรู้สึกกังวลว่าเรื่องจะเงียบไป และมีการช่วยเหลือกัน จึงเดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ลาดหญ้า
ขณะที่มีข้อมูลว่า ทหารยศส.อ. คนดังกล่าวเคยก่อเหตุลวนลามเพื่อนร่วมงานคนอื่นมาแล้วหลายครั้ง ผู้เสียหายส่วนใหญ่จะเป็นเสมียนหญิงในที่ทำงานเดียวกัน แต่ไม่มีใครกล้าแจ้งความเพราะ ส.อ.คนนี้มีผู้ใหญ่คอยปกป้องอยู่
วันนี้ 14 ก.ย. 2565 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พาผู้เสียหายเดินทงไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ สภ.ลาดหญ้า โดยพูดคุยกับ พ.ต.อ เตชินท์ บรรจง ผู้กำกับการ สภ.ลาดหญ้า
ซึ่งทางผู้กำกับฯ ได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรั้วทหาร อาจติดขัดในเรื่องระเบียบขั้นตอนต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความล่าช้าไปบ้าง แต่เมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือถึงต้นสังกัดไปแล้ว เพื่อตรวจสอบสถานภาพทางทหารของผู้ก่อเหตุก่อนเรียกตัวมาสอบปากคำ เพื่อรวมรวบทำสำนวนส่งฟ้องศาลทหาร โดยกำชับพนักงานสอบสวนให้ทำแล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการแทรกแซงคดีโดยเด็ดขาด
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหากับ ส.อ. คนดังกล่าวแล้ว 4 ข้อหา คือ ฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญ กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย เข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันสมควร และทำให้เสียทรัพย์ เพราะ ส.อ.ปัดโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายทิ้งด้วย
ด้านพ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบก ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วได้ให้หน่วยต้นสังกัดซึ่งเป็นหน่วยทหารในจังหวัดกาญจนบุรี รายงานข้อเท็จจริงและคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นภายในหน่วยอย่างเร่งด่วน ซึ่งกองทัพบกมีนโยบายให้ความเป็นธรรมในการดำเนินการตามข้อเท็จจริง หากกำลังพลกระทำผิดจะต้องได้รับโทษทั้งกระบวนทางกฎหมาย และวินัยทหาร
กรณีดังกล่าว กองทัพบกมีความไม่สบายใจที่เกิดการร้องเรียนเกี่ยวกับเหตุการณ์คุกคามทางเพศในหน่วยทหาร แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปก็ตาม ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง เพราะกำลังพลทุกคนมีสิทธิและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ที่ต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ปฏิบัติตนตามวินัยทหารและการเป็นข้าราชการที่ดี
เบื้องต้นทราบว่า จากการที่ผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชานั้น หน่วยต้นสังกัดได้รับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการสอบสวน ขณะนี้การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ แต่ทางผู้เสียหายเกิดความกังวลใจ จึงได้นำเรื่องไปหารือกับบุคลภายนอกจนปรากฏเป็นข่าว