"บิ๊กโจ๊ก" สั่งล่าแก๊งค้าประเวณีเด็กป่าตอง พบเครือข่ายโยงหลายจังหวัดท่องเที่ยว
ตร.ขอเพิกถอนสัญชาติ"นวพร"จ่อผลักดันกลับจีน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า หลังมีการจับกุมดำเนินคดี น.ส.นวพร ภาเกียรติสกุล อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่เป็นตัวการใหญ่คดีอุ้มบุญ และเรื่องการได้สัญชาติโดยผิดกฎหมาย และความผิดคดีอาญาฐานฟอกเงิน เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบปากคำ น.ส.นวพร ได้ให้การเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีคนแอบอ้างชื่อของตน เข้าไปเรียกเงินกับ น.ส.นวพร จำนวน 33 ล้านบาท แต่จ่ายไป 14 ล้านบาท มีการกล่าวอ้างว่าจะช่วยเหลือคนจีนต่างๆที่เป็นอาชญากรจีน
โดยจากการตรวจสอบทราบว่าคนที่ไปเรียกรับเงินก็เป็นผู้สื่อข่าวที่ตนช่วยให้ประสานกับทางการจีนอยู่ ซึ่งเป็นคนสัญชาติไทยเชื้อสายจีน จากนั้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐานเรียกรับหรือยอมจะรับผลประโยชน์ใด ๆ เพื่อให้เจ้าพนักงานของรัฐกระทำการใดที่ไม่ปฎิบัติตามหน้าที่ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หลังจากที่ศาลอาญารัชดาได้อนุมัติหมายจับเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวตั้งแต่เมื่อวาน ( 26 พ.ค.) ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ใครก็ตามที่แอบอ้างชื่อของตนเอง ไปเรียกรับผลประโยชน์หรือใช้ชื่อตนเองไปทำความเสียหาย จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือรู้จักกัน หากกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนกันเป็นบรรทัดฐานเดียวกันหมดไม่มีละเว้น และจากนี้ก็ต้องไปต่อสู้คดีเอง