จากกรณีการฆาตกรรมนักธุรกิจชาวเมียนมา ที่ย่านสุขุมวิท พร้อมชิงเงินสด 5 ล้านบาท ซึ่งตำรวจพบชายต้องสงสัย เป็นชายผิวสี นัดเจอกับผู้เสียชีวิตก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น
โดยปรากฎภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งพบผู้ต้องสงสัย และ ผู้เสียชีวิต ในวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันก่อนเกิดเหตุ พบว่า เวลา 20.09 น. นายเคียว (ผู้ตาย) ได้นัดเจอกับนายวิลเลียมและนายจอห์น (ผู้ต้องสงสัย) ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านนานา
จากนั้น เวลา 20.11 น. ทั้ง 3 คน เดินออกจากโรงแรมที่นัดพบ ไปที่แมนชั่นของนายเคียว ในซอยสุขุมวิท 6
เร่งล่าตัว! “แก๊งเงินดำ” ฆ่าชิงทรัพย์ 5 ล้าน นักธุรกิจเมียนมา
เร่งคลี่ปมฆ่า! คนร้ายซุ่มยิงผู้ใหญ่บ้านหนุ่ม เสียชีวิตคาบ้าน
ต่อมาเวลา 20.13 น. ทั้ง 3 คน ขึ้นลิฟท์ไปบนห้องของนายเคียว บนชั้น 23
หลังจากนั้นเวลา 20.30 น. นายเคียว ลงมาส่งนายวิลเลียมด้านล่าง พร้อมกระเป๋าเดินทาง
และเมื่อเวลา 20.50 น. นายเคียว ลงมารับ นางเท เทวิน พยานในที่เกิดเหตุ ขึ้นไปบนห้อง พร้อมกระเป๋าเดินทางและถุงกระดาษ 1 ใบ
ก่อนที่ในช่วงเวลา 21.05 น. ผู้ตายลงมาเอาของข้างล่างแมนชั้นเพียงคนเดียวและมารอรับนายวิลเลียม
และเมื่อเวลา 21.08 น. นายเคียวและนายวิลเลียมขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง ก่อนจะกลับลงมาข้างล่างอีกครั้ง เวลา 21.10 น. และกลับขึ้นห้อง เวลา 21.14 น.
จากนั้น เวลา 22.15 น. นายเคียวและนายจอห์น ลงลิฟต์ไปชั้น 1 และกลับขึ้นไปบนห้องอีกครั้งเวลา 22.22 น.
จากนั้น 22.33 น. นายวิลเลียมและนายจอห์น ออกจากห้องผู้ตายพร้อมถือกระดาษสีขาว 1 ใบ
22.35 น. นายวิลเลียมและนายจอห์น เดินออกจากแมนชั่นผู้ตาย เลี้ยวขวาไปปากซอยสุขุมวิท 6 และข้ามถนนไปซอยสุขุมวิท 9
ทั้งนี้ตำรวจสันนิษฐานว่าช่วงเวลา 22.22 - 22.33 น. คือช่วงเวลาที่ก่อเหตุ ซึ่งขณะนั้น มีคนอยู่ในห้องพักทั้งหมด 4 คน คือ นายเคียว ผู้เสียชีวิต นางเท เทวิน พยานในที่เกิดเหตุ รวมถึง นายจอห์น และ นายวิลเลี่ยม ผู้ต้องสงสัย
ซึ่งพลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รอง ผบช.น.) บอกว่า นางเท พยานในที่เกิดเหตุยังให้การว่า ถูกนายวิลเลียมและนายจอห์น บีบคอ และ ผลักจนสลบ ก่อนจะพบภาพในหล้องวงจรปิดเห็นนางเท ลงจากลิฟท์มาประมาณ 23.00 น. เพื่อมาแจ้ง รปภ. พอ รปภ.ไปดูบนห้องจึงพบศพนายเคียว
นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุ ตำรวจยังพบกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ใบแรกข้างในมีเอกสารของผู้เสียชีวิต ส่วนอีกใบมีถุงผ้าอยู่ในกระเป๋า ในถุงผ้ามีเสื้อพันอยู่ด้านนอก และยังพบผงสีชมพูอ่อน ที่เป็นผงในกระบวนการทำเงินดำ และยังพบถุงกระดาษอีก 1 ใบ ด้านในมีกระดาษซ้อนกันเป็นสีดำเป็นปึกสูงคล้ายธนบัตร และมีการลากกระเป๋า ที่มีผงใช้ทำเงินปลอม และจากการตรวจสอบยังพบภาพเงินดอลล่าร์ ในมือของผู้ตาย ซึ่งเชื่อว่า สาเหตุในการลงมือฆ่าในครั้งนี้ น่าจะมาจากการทะเลาะวิวาท
พลตำรวจตรีนพศิลป์ บอกอีกว่า จากการสอบถามพยานพบว่า นายเคียว ผู้ตาย เดินทางไป ๆ มา ๆ ทั้งหมด 52 ครั้ง โดยอ้างว่ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง กรุงเทพฯ-ฮานอย ด้วย และผู้ตายน่าจะมีการทำธุรกิจบางอย่างในเมืองไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและประสานสถานทูตเมียนมาว่าผู้ตายมีประวัติอย่างไรบ้าง
ส่วนการเปิดเข้าพักอยู่ระหว่างตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีการเปิดห้องพักนี้ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.โดยมีเอเจ้นท์เปิดให้ แต่ผู้ตายเข้ามาวันที่ 7 ก.พ. ส่วนนางเท คนที่อยู่ในห้องที่เป็นพยาน เป็นญาติผู้ใหญ่กับผู้ตาย ไม่ใช่ญาติ และคนละส่วนกับเอเจ้นท์ ส่วนที่เกิดเหตุ ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบโดยละเอียด แต่สภาพในห้องเบื้องต้นพบร่องรอยการต่อสู้
ส่วนคำให้การของพยาน ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่าเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะสภาพการถูกผลักหรือถูกทำร้ายแล้วทำให้สลบ รวมถึงมีเหตุการตายเกิดขึ้นแล้วยังไม่รู้ตัว แต่มาแจ้ง รปภ.หลังคนร้ายหนีไปแล้วครึ่งชั่วโมง จึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนและจะส่งพยานไปให้แพทย์นิติเวชตรวจร่างกายด้วย ส่วนประเด็นว่าพยานมาอยู่ในห้องทำอะไรนั้น ต้องสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน
ส่วนที่พยาน อ้างว่า ผู้เสียชีวิต ทำการกู้เงินจากต่างประเทศมาทำธุรกิจกับนายวิลเลียมและนายจอห์น แต่พอตำรวจไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเป็นเรื่องของเงินดำ จึงต้องสืบสวนสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน
ด้านนาย อู๋ เอเจ้นท์ ที่เป็นคนหาห้องเช่าให้นางเท บอกว่า ผู้เสียชีวิตและพยาน ได้ติดต่อขอซื้อห้อง อ้างว่า ลี้ภัยเข้ามา และอยากทำธุรกิจในไทย แต่ไม่ได้บอกว่าธุรกิจประเภทใด โดยพยานอ้างว่ามีเงินสดเป็นจำนวนมาก พร้อมระบุแบบห้องที่ต้องการ แต่ด้วยความหวังดีจึงแนะนำให้ลองเช่าอยู่ก่อนสัก 1 ปี ซึ่งห้องนี้เป็นห้องที่ผู้ตายอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ส่วนพยานพักอาศัยอยู่คอนโดฯ ย่านทองหล่อ แต่จะไปมาหาสู่กับผู้เสียชีวิตเป็นประจำ โดยผู้เสียชีวิตและพยานจะเป็นคนผลัดกันจ่ายค่าเช่าห้อง ซึ่งผู้เสียชีวิตจะจ่ายตรงแต่พยานจะจ่ายไม่ค่อยตรงและค้างจ่ายไปบ้างจึงคาดว่า นางเท น่าจะมีปัญหาทางการเงิน เพราะเคยมาขอยืมเงินตนเองและเอเจ้น์ คนอื่นหลายครั้ง แต่ผู้เสียชีวิตเคยมาเตือนว่า ไม่ต้องให้ นาง เท ยืม
โดยตนเองคาดว่า นางเท จะเข้ามาทำธุรกิจขายตรง และ มักจะนั่งคุยกับชาวต่างชาติด้วยกันที่หน้าคอนโด จึงไม่คิดว่าจะทำอาชีพนี้
ทั้งนี้ล่าสุด ชื่อที่แท้จริงของ 2 ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุฆ่านายเคียว ชาวเมียนมา ตามพาสปอร์ต คือ ชื่อ Mr. Robinson Saha ชาวแคเมอรูน เกิดวันที่ อายุ 33ปี และMr.Viscio Delord ชาวแคเมอรูน อายุ 37 ปี โดยทั้งสองคนออกจากประเทศไทย ด้วยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบิน SL 0100 จากสนามบินดอนเมืองปลายทางประเทศสิงคโปร์ เมื่อช่วง 05.01 น.วานนี้ ( 14 ก.พ. )
เช็กสถิติหวยออกย้อนหลัง 15 ปี งวดประจำวันที่ 16 กุมภาพันธ์
กทม.เตือนฝุ่น PM 2.5 เช้านี้ ทะลุระดับสีแดง 17 เขต!
งานนี้พระจะไม่ยุ่ง! ไม่ขอเป็นพยานให้ป้าฮุบบ้านปมคดีครอบครองปรปักษ์