ความคืบหน้ากรณีพบศพหญิงไทยชาวอุดรธานี ถูกฆาตกรรมที่ไต้หวัน หลังถูกนายจ้างชวนไปเก็บผักบนภูเขา หลังมีปัญหาทะเลาะกับนายจ้างรุนแรง ใช้งานหนักจนไม่ได้กินข้าว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปยังบ้านเกิดของ น.ส.สุดธิดา หรือแวว อายุ 32 ปี ผู้เสียชีวิต โดยพบกับนางดวงพร อายุ 59 ปี ป้าของ น.ส.แวว เล่าว่าหลานสาวไปทำงานที่ไต้หวันแบบหลบหนีเข้าเมือง ตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ที่ผ่านมาหลานถือเป็นเสาหลักของครอบครัว จะส่งเงินมาให้ทุกเดือน ซึ่ง น.ส.แวว มีลูกชาย 1 คน
กระทั่งวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.แวว ได้เปลี่ยนงานใหม่ มาทำงานเป็นแม่บ้าน โดยนายจ้างคนนี้เป็นชาวไต้หวันแต่มีแฟนเป็นคนไทย สาเหตุที่มาทำเพราะสื่อสารกันรู้เรื่อง และให้เงินเดือนสูงถึง 35,000 บาท
แต่ที่แปลกใจ คือตั้งแต่วันแรกที่มาถึงก็ถูกนายจ้างรื้อค้นทรัพย์สินในกระเป๋า เจอก็ทรัพย์สินที่ น.ส.แวว เตรียมส่งกลับบ้าน คือทองคำหนัก 5 บาท และโทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้ แค่โทรมาบ่นและเล่าให้ป้าฟัง และอดทนทำงานเพราะเห็นว่าเงินดี
หลัง น.ส.แวว ทำงานกับนายจ้างใหม่ได้ 3 วัน (10 พ.ค.) ก็โทรศัพท์มาบ่นให้ที่บ้านฟัง ว่าถูกนายจ้างใช้งานหนัก ห้องรกมาก ใช้ให้เธอย้ายของจนไม่ได้กินข้าว และใช้ให้เธอซักเสื้อใน กางเกงใน จนทำให้ น.ส.แวว ทนไม่ไหว เตะถังน้ำใส่นายจ้างไป 1 ครั้ง
ช่วงค่ำวันเดียวกัน น.ส.แวว โทรศัพท์กลับมาที่เมืองไทยอีกครั้ง บอกว่านายจ้างชวนให้ขึ้นไปเก็บผักบนภูเขา เธอบอกกับที่บ้านว่ากลัว จากนั้น น.ส.แวว ก็โทรศัพท์ไปหาแฟนหนุ่ม ที่ทำงานอยู่ที่ไต้หวันด้วยกัน พร้อมส่งพิกัดแผนที่ไปให้ ตอนนั้นป้าก็ยังบ่นให้กับนายจ้างว่าไปเก็บผักอะไรเวลานี้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับหลาน
กระทั่งเช้าวันที่ 11 พ.ค. แฟนของ น.ส.แววโทรกลับมา บอกว่า น.ส.แวว ถูกฆาตกรรมเสียชีวิต หลังจากที่แฟนหนุ่มติดต่อ น.ส.แววไม่ได้ ก็ได้แจ้งตำรวจแล้วเดินทางไปหาตามพิกัดที่ น.ส.แววให้ไว้ แล้วพบว่าเธอเสียชีวิต
สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงที่มือและเท้าทั้ง 2 ข้าว มีรอยเลือดจำนวนมาก และพบรอยลากศพไปทิ้งเหว สูงประมาณ 10 เมตร พบก้นบุหรี่ยี่ห้อเดียวกันทั้งในจุดที่พบศพ และพบรอยเลือด
ป้าของ น.ส.แวว เชื่อว่าการเสียชีวิตของหลาน ต้องมีผู้เกี่ยวไม่ต่ำกว่า 2-3 คน เพราะหากเป็นนายจ้างผู้หญิง เชื่อว่าหลานสาวสู้ได้แน่นอน ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะหวังชิงทรัพย์ หลังเห็นว่าหลานมีทองติดตัว
ส่วนความคืบหน้าทางคดีล่าสุด สถานกงศุลไทย โทรมาแจ้งว่า ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เป็นนายจ้าง ตอนนี้ควบคุมตัวอยู่สถานีตำรวจ ส่วนตัวไม่อยากให้เขาได้รับการประกันตัว เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนแฟนหนุ่มตำรวจ ได้กันตัวไว้เป็นพยายาน
ขณะที่ชาวบ้านรวบรวมเงิน 3 หมื่นให้นางผ่องอำไพ แม่ผู้ตายเดินทางไปฌาปนกิจศพที่ไต้หวัน ขณะที่ นายบรรจบ อุนารัตน์ แรงงานจังหวัดอุดรธานี สั่งการให้ นางนลินพรรณ เซียวชัยสกุล นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สนง.แรงงานจังหวัดอุดรธานี เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจญาติ น.ส.สุดธิดา
นางนลินพรรณ ระบุว่าเนื่องจากผู้ตายไปทำงานไม่ได้ผ่านสำนักงานจัดหางาน จึงต้องให้กระทรวงต่างประเทศเจรจาเรื่องสงเคราะห์ฌาปนกิจศพ นอกจากนี้ยังแนะนำสิทธิที่ผู้ตายจะได้รับ เพราะจากการตรวจสอบสิทธิ พบว่าผู้ตายไม่เคยไปทำงานต่างประเทศ และไปทำงานที่ไต้หวันแบบผิดกฎหมาย แต่ยังมีสิทธิที่จะได้รับจาก พรบ.ประกันสังคม เนื่องจากผู้ตายเคยทำงานโรงงานและได้เข้าระบบประกันสังคม หลังจากลาออกแล้ว ผู้ตายยังสมัครเป็นผู้ประกันตน ม.39 และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม
น้ำตาท่วม! ประชุมผู้ปกครอง ครูขอพ่อแม่อย่ายัดเยียดความฝันตัวเองให้ลูก
ทำความเข้าใจ "พายุแม่เหล็กโลก" ก่อนไทยเจอรุนแรงระดับ 7 หรือ G 3 มีผลอย่างไร ?