เร่งสอบเส้นเงิน "โฟโต้" คาดเอี่ยวธุรกิจสีเทา

ภาพขณะที่ตำรวจคุมตัวนายภูริณัฐ หรือโฟโต้ ผู้ต้องหาฆ่านายไพศาลหมกคอนโด ไปสอบสวนเพิ่มเติม นายโฟโต้สวมแมสก์สีขาว สวมเสื้อฮู้ดสีดำ ระหว่างทางได้ส่งยิ้มและขยิบตาให้กับผู้สื่อข่าว แต่เมื่อเจอกับผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักรุมซักถาม นายโฟโต้ก็เปลี่ยนสีหน้านิ่งเฉยทันที และไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด

หลังสอบปากคำเสร็จ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้มาแถลงข่าวด้วยตัวเอง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพแล้วว่าก่อเหตุฆ่านายไพศาลจริง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เข้าปฏิเสธมาตลอด

รายการเข้มข่าวค่ำ

ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมนายโฟโต้ถึงนำเงินและทรัพย์สินของผู้ตายไปขายหรือมาใช้ส่วนตัวนั้น พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องหาอ้างว่า เนื่องจากทำธุรกิจร่วมกันกับผู้ตาย ดังนั้น ทรัพย์สินของผู้ตาย จึงเสมือนว่าตนเองเป็นเจ้าของร่วม เพราะสร้างมาด้วยกัน

สำหรับบาดแผลที่มากถึง 15 แผลนั้น เบื้องต้นทราบว่า เป็นการต่อสู้กันระหว่างผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิต แต่จะเป็นการแทงเพื่อข่มขู่หรือบีบบังคับให้ผู้ตายบอกข้อมูลบางอย่างแก่ผู้ต้องหาหรือไม่นั้น รวมทั้งใครเริ่มต่อสู้ใครก่อน อยู่ในระหว่างการขยายผล

ส่วนที่ผู้ต้องหาได้เดินทางหลบหนีไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ก่อนสุดท้ายจะมาถูกจับกุมที่จังหวัดชุมพรนั้น พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า เป็นการหลบหนีเพื่อประวิงเวลาให้ถูกจับกุมได้ช้าที่สุด โดยเป้าหมายสุดท้ายที่ผู้ต้องหาหลบหนี คือการกลับบ้านที่ จ.ชุมพร

ซึ่งตำรวจสามารถตรวจยึดของกลางจากผู้ต้องหา ได้ที่บ้านพักที่ จ.ชุมพร พบทองคำแท่งน้ำหนักรวม 28 บาท ซึ่งเป็นทองคำที่ผู้ต้องหาใช้เงินของผู้เสียชีวิตซื้อ รวมทั้งบัตรเครดิตและบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต และยังพบบัตรเครดิตและบัตรประชาชนของบุคคลอื่นอยู่ด้วย และมีการเผาเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุเพื่อทำลายหลักฐาน ต้องสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อเชื่อมโยงว่า นายโฟโต้ อาจจะประกอบธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงกับความผิดทางกฎหมาย

ด้านนายพรชัย พ่อของผู้ต้องหา ยกมือไหว้กล่าวขอโทษทุกคนผ่านสื่อมวลชนไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตและสังคมในสิ่งที่ลูกชายได้กระทำลงไป โดยพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามสุดความสามารถ ตอนนี้น้องสำนึกผิดและยอมรับในสิ่งที่ทำลงไป พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

พ่อเล่าเพิ่มว่า เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว น้องประสบอุบัติเหตุที่จังหวัดเชียงใหม่ เลยมีปัญหากระดูกหักที่คอและขาเลย ทำให้น้องมีปัญหาด้านการเดินอาจทำมีผลต่อจิตใจน้อง ส่วนที่น้องใส่เสื้อฮู้ดตลอดเวลานั้น เนื่องจากน้องดามคอ และการสวมแว่นตาถึง 2 ชั้น เป็นเพราะน้องสายตายาวและน้องชอบใส่แว่นกันแดด บางครั้งเลยมักจะสวมแว่นกันแดดและทับด้วยแว่นสายตา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของน้อง

หลังสอบปากคำเสร็จผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า ตัวผู้ต้องหามีอาการเครียดและสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผู้ต้องหาเองก็มีความรู้ด้านกฎหมายอยู่พอสมควร เนื่องจากจบนิติศาสตร์มา

โดยทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียด พร้อมดำเนินคดีใน 3 ข้อหา ได้แก่ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะ และพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร 

จากนั้นจะนำตัวส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรีในวันที่ 2 มิ.ย.ก่อนเที่ยง