เร่งล่าผัวโหดจ่อยิงเมียดับ ฉุดลูกเลี้ยงวัย 15 ปีขึ้นรถหนี

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 2568 ตำรวจสภ.พระสมุทรเจดีย์ รับแจ้งเหตุมีหญิงถูกยิงเสียชีวิต ที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์สองชั้น พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงทราบชื่อ น.ส.รัตติยา 34 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะหนึ่งนัด ที่ลิ้นปี่อีกหนึ่งนัด นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณชั้นล่างของบ้าน

สตริงเกอร์ สมุทรปราการ

ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นสามีของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายชัยวัฒสิทธิ แก้วภักดี อายุ 43 ปี หลังก่อเหตุได้ข่มขู่พาเด็กหญิงวัย 15 ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงขี่จยย.ไปขึ้นรถกระบะ มิซูมิชิ สีดำ หมายเลข ทะเบียน 9 กส 6627 กทม. พร้อมกับอาวุธปีน หลบหนีไป

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุกับผู้ตายได้แยกกันอยู่มาประมาณสามปี ผู้ก่อเหตุได้พาลูกชายวัย 10 ขวบ ซึ่งเป็นลูกที่เกิดกับผู้ตาย และลูกสาวซึ่งเป็นลูกเลี้ยง วัย 15 ปี กลับไปอยู่ที่จ.ศรีสะเกษด้วย ส่วนผู้ตายพักอาศัยอาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้พาเด็กทั้งสองคน เดินทางมาจากจ.ศรีสะเกษ ด้วยรถกระบะ เพื่อเดินทางมาพูดคุยปัญหากับผู้ตาย แต่เจรจาไม่ลงตัวผู้ก่อเหตุจึงใช้ปืนจ่อที่ศรีษะก่อนยิงจนล้มลง แล้วยิงซ้ำเข้าที่ท้องอีกหนึ่งนัด จากนั้นได้ข่มขู่ให้แม่ของผู้ตายหยิบกุญแจรถจักยานยนต์ ให้แล้วขับพาลูกเลี้ยงหลบหนีไป

แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกสาวลงมาจากบ้านพร้อมทะเบียนสมรส แล้วก็วางไว้ให้ผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุไม่พูดอะไร เอาปืนจ่อยิงหัว และยิงเข้าที่ท้อง จนลูกสาวตนล้มลงไปไปนอนกับพื้น หลังจากนั้นก็ทำท่าจะยิงหลานสาว (ลูกเลี้ยง) ซึ่งตนก็กอดหลานสาวไว้ไม่ให้ผู้ก่อเหตุยิง จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ลากตัวหลานสาวตนขึ้นรถจักยานยนต์หลบหนีไปด้วย ซึ่งลูกสาวตนได้คบกับผู้ก่อเหตุมานานแล้วประมาณแปดปี มีลูกด้วยกันหนึ่งคน ส่วนลูกสาวตน มีลูกติดที่เป็นผู้หญิงอายุ 15 ปี ที่ผู้ก่อเหตุพาตัวไปด้วย อีกหนึ่งคน แต่ลูกสาวตนกับผู้ก่อเหตุ ได้แยกกันอยู่มาประมาณ 3 ปี

ด้านพี่สาวของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายได้แยกกันอยู่กับผู้ก่อเหตุมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว โดยผู้ตายได้มาหาตนที่ทำงานแล้วเล่าให้ฟังว่า ลูกสาวโทรมาเล่าให้ฟังเมื่อวันจันทร์ว่าถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนมาหลายครั้ง ตนก็ให้คำปรึกษาไป ซึ่งผู้ตายก็บอกกับลูกสาวไปว่าให้ถ่ายภาพเก็บหลักฐานไว้ และหลังจากนั้นผู้ตายก็ติดต่อลูกสาวไม่ได้อีกเลย ซึ่งตนคาดว่าที่ผู้ก่อเหตุเดินทางจากจ.ศรีสะเกษมาลงมือฆ่าผู้ตายน่าจะมาจากสาเหตุนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ สอบสวนพยานแวดล้อม และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ส่วนร่างผู้เสียชีวิตมอบให้มูลนิธิฯนำส่งชันสูตรเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตเพื่อประกอบสำนวนคดีดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป