คนร้ายบุกยิงชาวบ้าน จ.นราธิวาส วันเดียวดับ 4 ราย

เหตุการณ์แรกเกิดตอนช่วงเวลาประมาณ 15.25 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านไอร์บือแต ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ว่า เกิดเหตุประชาชนถูกยิงในพื้นที่ ต.ช้างเผือก ระหว่างบ้านไอร์โซ-บ้านไอร์บือแต มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงอายุ 76 ปี ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และผู้บาดเจ็บที่ถูกยิงบริเวณซี่โครงด้านขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส

สตริงเกอร์นราธิวาส

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุบุตรชาย ขี่รถจักรยานยนต์โดยมีผู้เสียชีวิตผู้เป็นแม่ นั่งซ้อนท้าย ออกจากบ้านในโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่างบ้านไอร์บือแต ม.4 เพื่อเดินทางไปหาหมอตามนัดที่โรงพยาบาลจะแนะ เมื่อแล้วเสร็จนายทัศไนย์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์พาแม่นั่งซ้อนท้ายเพื่อกลับบ้านพัก ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้าย จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบไล่หลัง เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าประชิดให้คนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่มารดาและนายทัศไนย์ จำนวน 3 นัดซ้อนทำให้นางสง่า เสียชีวิต ส่วนนายทัศไนย์ บาดเจ็บสาหัส แล้วคนร้ายได้รีบขี่รถ จยย.หลบหนีไป

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาทำการตรวจสอบจุดเหตุอีกครั้งในวันนี้ (3 พ.ค.)

ต่อมาเวลา 19.38 น. ตำรวจ สภ.ตากใบ ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงชาวบ้านบาดเจ็บและเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 1/3 ม.5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ 2 ราย โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตประกอบด้วยนายดำ อายุ 46 ปี , ด.ญ.อายุ 9 ปี และชายวัย 59 ปี (เสียชีวิตที่ รพ.ตากใบ )ส่วนผู้บาดเจ็บถูกส่งต่อเข้ารักษาตัวจากโรงพยาบาลตากใบมายังโรงพยาบาลนราธิวาสประกอบด้วย นายเชาว์ อายุ 44 ปี และนายภาคีไนย อายุ 29 ปี

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าขณะที่ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งหมด 5 คน นั่งดูโทรศัพท์ที่บ้านพัก จากนั้นมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน เป็นพาหนะใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดกราดยิงเข้าไปบริเวณบ้านหลังดังกล่าวจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตามในวันนี้ (3 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบเพื่อรวบรวมวัตถุพยานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง