ความคืบหน้า กรณีการหายตัวไปของนายวราพงษ์ หรือดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบศพในป่าบริเวณบ้านทุ่งนานางหรอก หมู่ 3 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยสภาพศพขึ้นอืด ถูกมัดมือไพล่หลัง และชันสูตรพบว่าโดนยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะ 2 นัด หลังพบศพ พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ลงพื้นที่สั่งการเอง ขณะที่ตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีจับกุมนายธนเดช (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องสงสัยรายแรกไว้แล้ว
ล่าสุด ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 ราย ได้แก่ นายนพพิจิตร, นายธราเทพ ใบบัว, นายภคนัท แจ่มน้อย และนายณรงค์เดช อ่อนละมูล
โดยมีข้อกล่าวหาทั้งหมด 12 ข้อ ซึ่งในจำนวนนี้มี 5 ข้อหาหนัก ดังนี้
1.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น โดยใช้การขู่เข็ญให้กลัวว่าจะได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน และร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร
2.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยมีการไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้นหรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุแห่งการตาย
3.ร่วมกันกระทำต่อศพหรือบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น
4.ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป และร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง
5.ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนเข้าเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น พร้อมข้อหาสมคบตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดตามกฎหมาย
ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยรวม 5 คน โดยหนึ่งในนั้นคือนายธนเดชที่ถูกจับกุมไปก่อนแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 4 ราย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยในวันนี้ 19 พ.ค. 2568 พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผุ้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานออกติดตามจับกุมตัวผุ้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับที่เหลืออีก 4 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด
ซึ่งจากข้อมูลเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ในคืนวันเกิดเหตุ นอกจากนายธนเดช ที่รับหน้าที่ขับรถยนต์กระบะสีขาว ตามประกบรถของดีเจเตเต้แล้ว ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 4 รายนั้น ล้วนอยู่ในเหตุการณ์การอุ้มห่าดีเจเตเต้ ซึ่งพิสูจน์ได้จากภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิด รวมถึงการติดต่อสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์ในช่วงเกิดเหตุด้วย