วิกฤตเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางปัจจัยที่รุมเร้าซึ่งผลการประเมินเครื่องบ่งชี้วิกฤติเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศจากคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ ทั้งหมด 4 ด้าน คือ
ครม.อนุมัติ 500 ล้านบาท ปล่อยกู้เกษตรกรเลี้ยงกุ้งทะเล ดอกเบี้ย 0%
ลดภาษีประจำปี 90% ช่วยแท็กซี่ สามล้อ วินมอเตอร์ไซค์
1.วิกฤตต้นทุนพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ พบว่า ปริมาณน้ำมัน ก๊าซ ไฟฟ้า และสินค้าที่จำเป็นยังไม่ขาดแคลน แต่มีราคาสูงขึ้น และจากการดำเนินงานตามมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขาดสภาพคล่อง
2.วิกฤตการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิตและการขาดแคลนวัตถุดิบด้านการเกษตร พบว่า วัตถุดิบด้านการเกษตร เช่น ปุ๋ยและอาหารสัตว์ไม่ขาดแคลน แต่มีราคาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้าเกษตรบางรายการ เช่น ข้าวนาปีและยางพารามีราคาขายที่ต่ำกว่าต้นทุน
3.วิกฤตการเงินภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ SMEs พบว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP เริ่มลดลงตามการเพิ่มขึ้นของรายได้ แต่รายจ่ายครัวเรือนยังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหมวดค่าโดยสาร ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วน SMEs ในภาพรวมค่อยๆ ฟื้นตัว แต่ในบางสาขายังไม่กลับสู่ระดับปกติ
4.วิกฤติเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจและการลดลงของขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการรับรองวิกฤตเศรษฐกิจในอนาคต พบว่า ควรต้องเร่งสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
ที่ประชุมจึงออก มาตรการระยะเร่งด่วน (Quick Win) เพื่อรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤตเศรษฐกิจและมาตรการที่ต้องเร่งดำเนินการต่อเนื่อง (Follow-up Urgent Policy) และผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 19 ส.ค.65
มาตรการระยะเร่งด่วน (Quick Win) 12 มาตรการ เพื่อรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น
1.มาตรการขอความร่วมมือจากภาคเอกชนให้ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง (ตอนบ่ายและช่วงหัวค่ำ)
2.ลดการใช้ไฟฟ้าของหน่วยงานราชการ
3.เร่งรัดการบังคับใช้ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติงานนอกที่ตั้งของส่วนราชการ พ.ศ. ....
4.จัดจำหน่ายบัตรโดยสารรายเดือน
5.พิจารณาต่ออายุมาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันแพง
6.โครงการบริหารจัดการปุ๋ย ประกอบด้วยการชดเชยราคาปุ๋ยให้เกษตรกร สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการให้สถาบันเกษตรกร
7.โครงการส่งเสริมการผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในสถานการณ์ปุ๋ยแพง
8.โครงการพักทรัพย์พักหนี้
9.มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู)
10.มาตรการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs
11.การบูรณาการฐานข้อมูลเกษตรกรในหลายมิติ เช่น ฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและฐานข้อมูลพื้นที่ทางการเกษตร ฐานข้อมูลหนี้เกษตรกร
12.การขยายวัตถุประสงค์ของมาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบธุรกิจภายใต้วงเงินจาก พ.ร.ก.ฟื้นฟูฯ
มาตรการที่ต้องเร่งดำเนินการต่อเนื่อง (Follow-up Urgent Policy) 10 มาตรการ
1.ส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
2.ลดต้นทุนและปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งโดยมุ่งเน้นการขนส่งทางราง
3.ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ภายในประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพ
4.ศึกษาความคุ้มค่าในการร่วมลงทุนตั้งโรงงานผลิตปุ๋ยโพแทส
5.พัฒนาทักษะทางการเงินในทุกช่วงวัย
6.การดำเนินการของคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย
7.เร่งส่งเสริมการค้าออนไลน์
8. การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและหุ่นยนต์
9.เจรจา Digital Economic Partnership กับสิงคโปร์
10.ขยายความร่วมมือด้าน BCG เป็นต้น
นายกฯ แจงประเด็นขึ้นค่าไฟ-ราคาสินค้า
ในส่วนของประเด็นเรื่อง "ค่าไฟฟ้า" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาการขึ้นค่าไฟขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อเสริมสภาพคล่องให้เดินหน้าไปได้ โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย เน้นย้ำว่าประชาชนต้องเดือดร้อนน้อยที่สุด และผู้ประกอบการมีสภาพคล่องในการดำเนินการโดยไม่กระทบกับการบริหารจัดการไฟฟ้าให้ประชาชน
ในส่วนของการปรับขึ้นราคาสินค้าต่าง ๆ ได้มีการหารือร่วมกันกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์โดยให้พิจารณาอย่างรอบคอบ หากมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาต้องเป็นไปตามกลไกต้นทุนการผลิต หากราคาต้นทุนลดลงก็ต้องปรับลดลงด้วย ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการหารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน เน้นย้ำประชาชนต้องไม่เดือดร้อนและผู้ประกอบการสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ควบคู่กัน