ปี 2565 สามารถส่งออกไข่ไก่ได้ 282 ล้านฟอง มูลค่า 1,238 ล้านบาท โดยมี 2 ตลาดหลักสำคัญ คือ ฮ่องกงและสิงคโปร์ แต่ล่าสุด กรมปศุสัตว์ หารือกับผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (Taipei Economic and Cultural Office in Thailand) และผู้แทนจาก กรมสุขอนามัยและการกักกันพืชและสัตว์ของไต้หวัน (Bureau of Animal and Plant Health Inspection and Quarantine – BAPHIQ) ในการเจรจาเพื่อขยายตลาดการส่งออกไข่ไก่สดไปยังไต้หวัน ส่งผลให้ไทยสามารถส่งออกไข่ไก่สดไปยังไต้หวันได้เป็นครั้งแรก
ส่งออกไทยปี 2566 ไม่สดใส คาดติดลบ 1.2% จากเศรษฐกิจโลกชะลอ
ส่งออกก.พ.ร่วง 4.74% ติดลบเดือนที่ 2 ขาดดุลการค้า 1.1 พันล้านดอลลาร์
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อเรื่องนี้ว่า สำหรับยอดการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเจรจาเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ โดยคาดว่าจะมีการเปิดตลาดของไข่สดอีกหลายประเทศ จะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถรักษาระดับการผลิตและการบริโภคให้ใกล้เคียงภาวะสมดุล
สำหรับไข่ไก่สดของไทยควบคุมคุณภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่การผลิตให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยอาหาร ตั้งแต่แหล่งที่มาของสัตว์จากฟาร์มมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) โรงฆ่าและโรงแปรรูปที่มีการปฏิบัติทางสุขลักษณะที่ดี (Good Hygiene Practices: GHPs) และระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Hazard Analysis and Critical Control Points: HACCP)
สอดคล้องตามข้อกำหนดของกฎหมายในประเทศ ตามระเบียบของประเทศคู่ค้าและตามหลักสากล นอกจากนี้ประเทศไทย รวมทั้งมีมาตรการป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ไม่มีการแพร่ระบาดไข้หวัดนกในประเทศไทยมากกว่า 15 ปี ถือเป็นจุดแข็งของอุตสาหกรรมสัตว์ปีกและไข่ ที่สามารถผลิตได้อย่างมีคุณภาพปลอดภัย และเป็นที่เชื่อมั่นของประเทศคู่ค้า ซึ่งผลสำเร็จจากการเจรจาเปิดตลาดนี้เป็นไปตามนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” อย่างปลอดภัยและยั่งยืน