การพบน้ำบน "ดาวอังคาร" ส่งผลต่อโลกเราอย่างไร

นักวิทยาศาสตร์สมมติฐานว่า ฐานขั้วโลกของดาวอังคารมีการปรากฎตัวของน้ำเหลวอยู่มานานกว่า 30 ปี ในปี 2018 นักบินอวกาศบนยาน Mars Express ได้ค้นพบสัญญาณของน้ำที่เป็นของเหลวบนพื้นผิวดาวอังคาร โดยใช้เครื่องมือ MARSIS ในการจับเรดาร์ขั้นสูงบนดาวอังคาร ด้วยการดักฟังใต้ดินบนชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ เครื่องมือนี้ใช้เวลา 15 ปีในการค้นพบข้อมูลการปฏิวัติของดาวอังคารและการแพร่กระจายของน้ำเหลวบนดาว

ภารกิจสำรวจอวกาศดำเนินการโดย European Space Agency (ESA) คือ Mars Express ถือเป็นครั้งแรกของการสำรวจดาวอังคารสำหรับหน่วยงาน โดยมีแผนที่จะสำรวจดาวอังคารตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2546 ยานอวกาศจะลงจอดบนพื้นผิวดาวเคราะห์ในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2546 นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ ในการสร้างภาพที่มีความละเอียดสูงขึ้นจากพื้นผิวดาวอังคาร หลังจากประสบความสำเร็จในการประมวลผลข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในช่วงปี 2012 ถึง พ.ศ. 2558 นักวิจัยเชื่อว่าพวกเขาสามารถตรวจจับทะเลสาบใต้ผิวน้ำได้ แล้วพื้นผิวน้ำแปลกๆจากทะเลสาบที่พบเจอนี้คืออะไรกันแน่?

ผิวน้ำทะเลสาบที่เจอนี้ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกใต้ ซึ่งปัจจุบันมีความกว้างประมาณ 20 กิโลเมตร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พบเจอผิวน้ำทะเลสาบใต้น้ำนี้ เพราะผิวน้ำแอนตาร์กติกามีหลายร้อยทะเลสาบใต้น้ำ เช่น ทะเลสาบวอสต็อก การค้นพบครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรต่อเรา?

การค้นพบทะเลสาบนี้ คือ สิ่งใหม่ๆ มากมาย สำหรับคนบนโลก เพราะการค้นพบว่ามีผิวน้ำบนดาวอังคาร ก็อาจจะหมายถึง มีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารก็เป็นได้ ไม่มีใครรู้เลยว่านอกโลกนั้นมีสิ่งมีชีวิตหรือไม่ ถ้ามีจริงก็ถือเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การค้นพบครั้งใหม่นี้คงจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดและอาจส่งผลกระทบต่อความเข้าใจของเราเกี่ยวกับจักรวาลในอีกหลายปี

เรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ยังมีอีกมาก ค้นพบและติดตามร่วมไปกับเราในรายการชั่วโมง Discovery ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-09.00 น. ทางช่อง PPTV HD 36