มีรายงานว่า ตั้งแต่วันนี้ (15 พ.ย.) เป็นต้นไป บริการ “Google Wallet (กูเกิลวอลเล็ต)” สามารถใช้งานได้แล้วในประเทศไทย
Google Wallet จะเป็นเหมือนกับกระเป๋าเงินอัจฉริยะที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของเรา เพียงแค่ใส่ข้อมูลบัตรเครดิตไว้ในแอปพลิเคชันตัวนี้ ก็สามารถ “แตะจ่าย” แบบดิจิทัลและไร้ซึ่งการสัมผัส (Contactless) ได้อย่างสะดวกสบาย ตามร้านค้าชั้นนำที่เปิดให้ชำระเงินผ่านเครื่องแตะจ่าย โดยไม่ต้องพกบัตร ไม่ต้องสแกนคิวอาร์โค้ด ไม่ต้องหยิบอะไรให้วุ่นวาย แค่มือถือเครื่องเดียวเท่านั้น
3 เคล็ดลับ นักช้อปออนไลน์ คุมค่าใช้จ่ายไม่บานปลาย กระเป๋าฉีก
แพลตฟอร์ม “Truth Social” ของทรัมป์ ถูกแบนจาก Google Play
คนรุ่นใหม่ใช้ TikTok ในการค้นหาข้อมูลมากกว่ากูเกิลแล้ว?
ทั้งนี้ กูเกิลระบุว่า ณ ตอนนี้ Google Wallet จะสามารถผูกกับบัตรเครดิตได้จาก 2 ธนาคารเท่านั้น คือธนาคารกรุงเทพ (BBL) และกรุงไทย (KTC) โดยใช้ได้ทั้งบัตร Visa และ Mastercard และในเร็ว ๆ นี้ จะรองรับบัตรทรูมันนี (TrueMoney Mastercard) ด้วย
เมื่อเพิ่มข้อมูลบัตรเครดิตดังกล่าวลงไปในแอปฯ Google Wallet ผู้ใช้จะสามารถใช้โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทวอตช์ที่ดาวน์โหลดแอปฯ ไว้ในการแตะจ่ายซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้ โดยเบื้องต้นร้านค้าที่รองรับการแตะจ่ายด้วย Google Wallet ประกอบด้วย เซเว่นอีเลฟเว่น แมคโดนัลด์ กูเมต์มาร์เก็ต รวมถึง Airbnb และดีแทค
นอกจากนี้ การใช้ Google Wallet ในการจ่ายเงินทุกครั้ง จะมีการสร้างเลขบัตรจำลองขึ้นมา หมายความว่า เมื่อชำระเงินก็จะขึ้นเลขบัตรจำลองนี้แทนเลขบัตรจริง ๆ ของเรา เป็นการปกป้องข้อมูลและความปลอดภัยของผู้ใช้
ผู้ที่ใช้ Google Wallet ยังสามารถเพิ่มบัตรสมาชิกร้านค้าต่าง ๆ เช่น OneSiam ของสยามพิวรรธน์ หรือบัตร Starbucks Rewards ของสตาร์บัคส์ เพื่อใช้แทนบัตรจริงได้ด้วย
และไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่บัตรโดยสารบอร์ดดิ้งพาสของสายการบินแอร์เอเชีย (AirAsia) และบัตรชมการแสดงต่าง ๆ ของไทยทิคเก็ตเมเจอร์ (Thai Ticket Major) ก็สามารถเพิ่มลงไปใน Google Waalet ได้ เพื่อใช้ในการแตะเข้าเกตหรือเข้างานแสดงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
Google Wallet นี้รองรับเฉพาะในโทรศัพท์มืถือแอนดรอยด์ที่มีระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) ขึ้นไปเท่านั้น สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Wallet ได้ที่ Play Store
แจ็คกี้ หวาง ผู้อำนวยการกูเกิลสาขาประเทศไทย กล่าวว่า “จากรายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ e-Conomy SEA 2022 พบว่า การชำระเงินแบบดิจิทัลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”
เธอเสริมว่า “คาดว่าการชำระเงินแบบดิจิทัลในไทยจะมีมูลค่าธุรกรรมรวม (Gross Transaction Value: GTV) สูงถึง 1.61 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.7 ล้านล้านบาท) ในปี 2568 เนื่องจากปัจจุบันคนไทยหลายล้านคนนิยมชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำ Google Wallet มาให้บริการในประเทศไทย”
หวางบอกอีกว่า เมื่อมี Google Wallet ผู้ใช้ในไทยสามารถแตะเพื่อจ่ายเงินในร้านค้า หรือเช็คเอาท์ผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งเข้าถึงบอร์ดดิ้งพาสสำหรับการเดินทางที่เร่งรีบในช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปลายปีได้อย่างง่ายดาย เปรียบเสมือนการรวมทุกกระเป๋าไว้ในที่เดียวในทุกการเดินทาง ซึ่งทั้งสะดวกและปลอดภัย
นางสาวไอลีน ชูว ผู้จัดการมาสเตอร์การ์ดประจำประเทศไทยและเมียนมา กล่าวว่า “ประเทศไทยคือตัวอย่างที่ล้ำหน้าของระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลเฉกเช่นเดียวกันมุมมองของมาสเตอร์การ์ดที่มีต่อการชำระเงินในโลกอนาคต เมื่อพูดถึงการชำระเงินแบบดิจิทัล วิธีการจัดการทางการเงินและวิธีการชำระเงินในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคชาวไทยเปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกันกับรูปแบบความนิยมและความคาดหวัง มาสเตอร์การ์ดมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับพันธมิตรอย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อนำความสะดวกสบายและความปลอดภัยของ Google Pay มาสู่ผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เกิดการชำระเงินแบบดิจิทัลในประเทศไทยมากขึ้น โดยมาสเตอร์การ์ดยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอทางเลือกในการชำระเงินให้แก่ผู้ถือบัตรพร้อมกับการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคให้สอดรับกับโลกยุคดิจิทัล เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้จ่ายได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามที่ต้องการ”
ด้าน นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บอกว่า บริการนี้จะเป็นอีกหนึ่งบริการสำหรับผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่นิยมความสะดวกสบาย ไม่ต้องพกบัตรพลาสติก ไม่ต้องพกเงินสด เพียงใช้สมาร์ทโฟนแตะที่เครื่องอ่านเพื่อชำระเงินค่าสินค้าและบริการ สามารถทำรายการได้รวดเร็ว
“บริการนี้เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์กับไลฟ์ไสตล์ของลูกค้าในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่นิยมความสะดวกสบายและยังคุ้นเคยกับเทคโนโลยีที่เป็นส่วนหนึ่งสำหรับช่วยให้จัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมถึงการชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือ Digital Wallet โดยไม่ต้องพกเงินสด กระเป๋าตังค์ หรือบัตรพลาสติก ทั้งยังช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society อีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน” นายโชคกล่าว
นางพิทยา วรปัญญาสกุล ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มงานการตลาดและสื่อสารองค์กร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเพิ่มทางเลือกให้สมาชิกเกิดความสะดวก คล่องตัว และมีความมั่นใจยิ่งขึ้นกับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตบนช่องทางดิจิทัล เคทีซีจึงมุ่งพัฒนาระบบเทคโนโลยีและมองหาช่องทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับการร่วมมือกับ Google ในครั้งนี้ เคทีซีถือเป็นหนึ่งในบัตรเครดิตรายแรก ที่สามารถรองรับการชำระเงินผ่าน Google Wallet ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้สมาชิกสามารถใช้บริการการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตบนสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์และอุปกรณ์พกพา Wear OS ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้เคทีซียังได้ร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ดมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบัตรเคทีซี มาสเตอร์การ์ด ที่ผูกบัตรฯ กับ Google Wallet สามารถแตะจ่ายสะดวก ปลอดภัยด้วย Google Pay ทุกจุดรับชำระเงินที่มีสัญลักษณ์ Contactless ซึ่งเคทีซีเชื่อมั่นว่าการผนึกกำลังครั้งสำคัญนี้จะสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับสมาชิกเคทีซีได้อย่างแน่นอน”