การกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วของ TikTok แพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้น ทำให้ยักษ์ใหญ่ “เมตา” (Meta) ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ปรับกลยุทธ์ด้วยการเปิดตัวฟังก์ชันวิดีโอสั้นบ้าง โดยใช้ชื่อว่า “รีลส์” (Reels) ให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กได้สร้างสรรค์วิดีโอสั้นแบบเดียวกัน
โดย Reels เป็นวิดีโอแบบสั้นที่ผู้ใช้สามารถใส่เอฟเฟกต์พิเศษและเพลงลงไปได้ในวิดีโอสั้นความยาว 3-60 วินาที ซึ่งเมตาระบุว่า เป็นรูปแบบเนื้อหาที่เติบโตเร็วที่สุดบนเฟซบุ๊ก และได้ขยายฟังก์ชันนี้ไปยังกว่า 150 ประเทศทั่วโลกแล้ว
กระนั้น หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดว่า จะสามารถดึงดูดผู้ใช้ไปยังแพลตฟอร์มของตัวเองได้หรือไม่ ก็คือเรื่องของ “การสร้างรายได้” ซึ่งเป็นช่องทางสร้างอาชีพของบรรดาอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์
สำหรับฟังก์ชัน Reels ของเฟซบุ๊กนั้น เปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอ “สร้างรายได้จากส่วนแบ่งโฆษณา”
ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน มีวิดีโออย่างน้อย 5 รายการ และมีผู้ชม 600,000 นาทีในเวลา 60 วัน มีสิทธิ์ฝังโฆษณาในคลิปของตัวเองได้ โดยรายได้จะถูกแบ่ง 55% ให้กับครีเอเตอร์ และ 45% ให้กับเฟซบุ๊ก หรือจะเป็นโฆษณาในรูปแบบของสติ๊กเกอร์และแบนเนอร์ก็ได้
“สวนสัตว์โฮโลแกรม” สวนสัตว์ยุคใหม่ ไม่มีสัตว์ของจริงแม้แต่ตัวเดียว
สุดล้ำ! การชำระเงินแบบใหม่ในสหรัฐฯ แค่ “สแกนฝ่ามือ” ก็เรียบร้อย
ลองใช้ยัง? TikTok เปิดตัวฟีเจอร์ “โพสต์ข้อความ” คล้ายไอจีสตอรี่
นั่นทำให้มีอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์จำนวนมาก ให้ความสนใจกับการหารายได้ผ่าน Facebook Reels กันมากขึ้น ขณะที่ในประเทศไทยเองนั้น ถึงขั้นมีการเปิดคอร์สสอนการหารายได้จาก Reels โดยผู้ที่เป็นครีเอเตอร์อยู่แล้ว
นอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง สอดอสไตล์ ที่มีผู้ติดตามหลักล้าน ก็ออกมาแชร์รายได้จากการทำคลิป Reels ของตัวเองว่าได้จำนวนเงินที่สูงมากเช่นเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้ผู้คนสนใจมากขึ้นอีก จนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลายคนออกมาแชร์ประสบการณ์กันว่าสามารถสร้างรายได้จำนวนหลักหมื่น
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) เมตาได้ออกมาเปิดเผยว่า รายได้ที่แสดงในช่วงวันที่ 6 กรกฎาคม ถึง 1 สิงหาคมนั้น เป็นเพียงข้อผิดพลาดในระบบซึ่งได้รับการแก้ไขแล้ว และจะแสดงรายได้จริงออกมา ทำให้เหล่าครีเอเตอร์พากันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจู่ ๆ รายได้จาก Reels ก็ลดน้อยลงทันที จากหลักหมื่นเหลือเพียงหลักร้อยก็มี
ทั้งนี้ เมตากล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อครีเอเตอร์จำนวนเล็กน้อยเท่านั้น และตอนนี้ทุกคนได้รับแจ้งถึงข้อผิดพลาดแล้ว
ถึงอย่างนั้น สำหรับครีเอเตอร์หน้าใหม่ในไทย หรือคนที่สนใจกำลังอยากเป็นครีเอเตอร์ Facebook Reels ต่างก็ตกใจกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะคนที่จ่ายเงินและลงสมัครคอร์สเรียนไปแล้วก็อาจผิดหวังไปตาม ๆ กัน
แต่เบื้องต้นทางเพจ ทนายตัวแสบ:Badass Attorney ได้ออกมาโพสต์แนะนำให้กัลคนที่จ่ายเงินสมัครคอร์สเรียนต่าง ๆ ไปแล้วและต้องการจะขอเงินคืนด้วยเหตุผลต่าง ๆ ให้ทำเป็นหนังสือข้อความเพื่อยกเลิกสัญญา
ปัจจุบัน ยังไม่มีแพลตฟอร์มวิดีโอใดที่มีระบบการสร้างรายได้สำหรับครีเอเตอร์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็น Snapchat ที่ระบบการการจ่ายเงิน Spotlight ยังมีข้อบกพร่อง ในขณะที่การสร้างรายได้จากวิดีโอสั้นของยูทูบหรือ Shorts ก็ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีนักสำหรับหลาย ๆ คน ส่วน TikTok นั้นปัจจุบันยังไม่มีกระบวนการแบ่งรายได้ด้วยซ้ำ มีเพียงการสร้างรายได้จากลูกค้าที่มาจ้างงานครีเอเตอร์โดยตรงเท่านั้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Facebook Reels ครั้งนี้อาจไม่ได้สร้างความเสียหายมหาศาล แต่ก็เน้นย้ำถึงความท้าทายที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ กำลังเผชิญ ในการเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จากคอนเทนต์วิดีโอขนาดสั้น ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
และเนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีแพลตฟอร์มใดที่สามารถอ้างว่าตัวเองเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในการให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้ จึงคาดว่านี่จะเป็นจุดโฟกัสสำคัญของแพลตฟอร์มต่าง ๆ หลังจากนี้ ที่จะต้องหาทางสร้างระบบการสร้างรายได้ที่น่าเชื่อถือ
นั่นหมายความว่า ความผิดพลาดของเมตาในครั้งนี้ที่ทำให้ครีเอเตอร์เข้าใจผิดเรื่องรายได้ ก็อาจส่งผลเสียต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในด้านนี้ด้วย และอาจจะต้องพยายามเรียกความไว้วางใจกลับคืนมา
ภาพจาก Meta