ถือเป็นการเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกันระหว่าง โมเดลปัญญาประดิษฐ์ หรือ โมเดล AI ของทั้งสองค่าย อย่าง "GPT-4o" ของ OpenAI และ "Gemini 1.5 Pro" ของ Google โดยที่ทั้งสองต่างก็มีสเปกและลักษณะการใช้งานที่ล้ำสมัย ต่างโมเดลต่างมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สมการรอคอยของผู้ใช้งาน
โดยวันนี้ PPTV จะพามาทำความรู้จักกับโมเดลทั้งสองว่า มีฟีเจอร์เด็ดที่มีข้อแตกต่างหรือข้อที่เหมือนกันอย่างไรบ้าง?
เริ่มกันกับโมเดล "GPT-4o" จาก OpenAI ที่เปิดตัวไปเมื่อคืนวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 โดย GPT-4o เป็นโมเดลที่มาพร้อมความสามารถใกล้เคียงกับโมเดล GPT-4 แต่มีความเร็วในการประมวลผลและการใช้งานที่สูงกว่า ซึ่งความสามารถของเจ้า GPT-4o ก็มีอยู่หลากหลาย เช่น
- การสนทนาระหว่าง AI ด้วยกัน สามารถจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ที่เปิดผ่านกล้องได้
- เป็นคู่ซ้อม ช่วยแนะนำรายละเอียดต่าง ๆ ของการสมัครงาน
- วิเคราะห์การเล่นเป่ายิงฉุบ (Rock Paper Scissors)
- การตอบคำถามที่มีโทนเสียง น้ำเสียงเพิ่มมากขึ้น แสดงอารมณ์การตอบแบบมีเสียงหัวเราะ ขำเล็กน้อย ตอบแบบลากเสียง เสมือนสนทนากับมนุษยือยู่จริง ๆ
- ช่วยสอนการบ้าน สามารถบอกวิธีทำโดยที่ให้เราหาคำตอบเองได้ เสมือนมีติวเตอร์ติดตัว
- แปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยที่เป็นตัวกลางระหว่างสองฝ่ายได้ โดยไม่ต้องพึ่งล่าม
- บ่งบอกอารมณ์ของสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข ผ่านการแสดงออกทางการลูบ และการเล่นด้วย
- นอกจากนี้ ยังสามารถรีแอกกับมุกตลกของเราได้ด้วย
โดยโมเดล GPT-4o รองรับมากกว่า 50 ภาษาทั่วโลก และสำหรับผู้ที่ใช้งานฟรี ก็จะได้รับความสามารถของ GPT-4o ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าไม่แพ้โมเดลอื่น ๆ ของ OpenAI
ส่วน "Gemini 1.5 Pro" ที่ Google เปิดตัวแบบสด ๆ ร้อน ๆ ในงาน Google I/O 2024 เมื่อคืนวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา (เช้ามืดของวันที่ 15 พ.ค.) โดยมีความสามารถที่เรียกได้ว่าไม่แพ้ GPT-4o พร้อมรองรับ context window เป็น 2 ล้านโทเคนครั้งแรก สูงกว่า GPT-4 เกือบ 16 เท่า รวมถึง Gemini 1.5 Flash ที่เป็นโมเดลขนาดเล็กและสามารถทำงานได้ไว โดยมีความสามารถต่าง ๆ เช่น
- สามารถรองรับข้อมูลขนาดใหญ่มากขึ้น และเชื่อฟังคำสั่งมากขึ้น โดยเฉพาะคำสั่งฟอร์แมต์เอาท์พุต
- พฤติกรรมของ AI มีการวางแผนการทำงานได้ดีขึ้น
- สามารถเรียกฟังก์ชันภายนอกได้มากขึ้น
- รองรับการถามและป้อนข้อมูล นำมาประมวลผล และตอบคำถามด้วยเสียง
ส่วนฟีเจอร์ AI อื่น ๆ บนพื้นฐาน Gemini 1.5 Pro ของ Google ที่เปิดตัวไปนั้นก็เรียกได้ว่ามีความล้ำไม่แพ้ OpenAI เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Project Astra โปรเจกต์ AI ใหม่ ที่ทำให้ AI เข้าใจสังคม โลก และชีวิตชีวามากขึ้น สามารถจำคน จำเนื้อหา และประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว
รวมถึง Veo ที่สามารถสร้างวิดีโอระดับ 1080p Full HD แบบ Cinematic จากนั้นสามารถนำมาแปลงเป็นคำอธิบายได้ หรือนำตัววิดีโอมาเพิ่มระยะเวลาขยายให้ยาวขึ้นได้
ทั้งนี้ การนำ AI มาใช้งาน ควรคำนึงถึงกฎหมายการใช้งานและจริยธรรมต่าง ๆ บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคม เพื่อไม่ให้ AI ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
ที่มา : OpenAI / Google I/O 2024
โปรแกรมวอลเลย์บอลหญิงไทย ศึกเนชันส์ ลีก 2024 คืนวันพุธที่ 15 พ.ค. 67
ประกันสังคม-บัตรทอง เช็กสิทธิตรวจสุขภาพ 14 รายการฟรี!
พยากรณ์อากาศล่วงหน้า 17 พ.ค.นี้เริ่มต้นฤดูฝน เตรียมรับมือพายุถล่ม