งาน Made By Google 2024 คืนวันที่ 13 สิงหาคม "Google" ได้เปิดตัวมือถือเรือธงรุ่นใหม่เป็นที่เรียบร้อย กับ “Google Pixel 9” รวมถึงตัวท็อปของรุ่นอย่าง "Google Pixel 9 Pro" และรุ่นพับได้อย่าง "Google Pixel 9 Pro Fold" ที่เรียกได้ว่าสมการรอคอยสำหรับสาวกรวมถึงผู้ที่สนใจมือถือซีรีส์หลักของ Google มาพร้อมโมดูลกล้องแบบใหม่ที่ดูล้ำและหนักแน่นกว่าเดิม และยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ร่วมพาเหรดเปิดตัวในงานนี้อีกเพียบ!
Gemini Live
หลัง Google เปิดตัว AI ใหม่บนมือถืออย่าง Google Gemini ขณะนี้ Gemini รองรับการทำงานกว่า 20 ภาษา และมีให้ใช้งานกว่า 250 พื้นที่ทั่วโลก พร้อมยกตัวอย่างการใช้งาน เช่น การขอให้ช่วยลิสต์อาหารที่ปรากฏบนวิดีโอโดยที่เราไม่จำเป็นต้องเขาไปดู รวมถึงช่วยให้ลิสต์เพลงเกาหลีที่เตรียมเดินในกรุงโซลได้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการคุยกับ Gemini แบบโดยตรงเป็นครั้งแรก บน Gemini Live โดยมีเสียงให้เลือกหลากหลายรูปแบบ สามารถพูดประโยคยาว ๆ ได้ มีความเป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีความรู้ในหลากหลายด้าน โดยที่ไม่นำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานมาฝึกสอน พร้อมออกไอเดียช่วยเหลือเราได้เป็นอย่างดี
จับตา! ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ชะตา คดีถอดถอน “เศรษฐา”
ไทม์ไลน์คดีถอดถอน “เศรษฐา” ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง!
ผัก-ผลไม้จีน ทะลักตลาดสดโคราช ถูกกว่าไทยเท่าตัว-เกษตรกรไทยกระทบเต็มๆ
สำหรับ Gemini Live จะใช้งานในภาษาอังกฤษก่อน พร้อมเปิดตัวให้ใช้งานแล้ววันนี้ ขณะที่ บนมือถือ Android อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Pixel Samsung และอื่น ๆ จะมาให้ใช้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
Google Pixel 9 / Pixel 9 Pro / Pixel 9 Pro XL
เริ่มผลิตภัณฑ์ไลน์อัปแรกกับ Google Pixel 9 ซีรีส์ มาพร้อมจอ OLED อัตรารีเฟรชขนาด 120Hz โดย Pixel 9 มีหน้าจอขนาด 6.24 นิ้ว Pixel 9 Pro มีหน้าจอขนาด 6.34 นิ้ว และ Pixel 9 Pro XL มีขนาดหน้าจอ 6.8 นิ้วใหญ่จุใจ กรอบหลังกระจก ปกป้องด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2 กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68
Pixel 9 ซีรีส์ ทำงานบนพื้นฐานระบบ Android 15 โดย Pixel 9 จะมาพร้อม RAM 12GB ขณะที่ Pixel 9 Pro - Pro XL มาพร้อม RAM 16GB ใช้ชิปเซ็ต Google Tensor G4 รองรับการทำงาน AI แบบจุใจ พร้อมการันตีอัปเดตซอฟต์แวร์ 7 ปี
ไฮไลต์เด่นของ Pixel 9 ซีรีส์ มาพร้อมความสามารถในการโทร SOS ผ่านดาวเทียมได้แล้ว และยังสามารถใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น Pixel Weather ที่ได้ AI ช่วยรายงานสภาพอากาศเรียลไทม์, ฟีเจอร์ป้องกันสแปม, ฟีเจอร์ Call Notes ที่สามารถสรุปการโทรออกมาได้แบบมีความเป็นส่วนตัว, และอื่น ๆ
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Pixel Screenshot ที่จะช่วยรวมภาพที่เราแคปเอาไว้ มาจัดหมวดหมู่ รวมถึงสามารถระบุลิงก์ภาพหรือเว็บไซต์ต้นทางที่เราแคปมาไว้ได้ รวมถึงหากเราแคปรูปสินค้าไว้ สามารถค้นหา ถามคำถามต่าง ๆ เช่น ราคา ช่องทางการสั่งซื้อ และสั่งซื้อได้เลย
มีฟีเจอร์ Pixel Studio ที่สามารถพิมพ์คำสั่งเข้าไป และระบบจะเจเนอเรตภาพแบบ On-Device ให้แบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถเปลี่ยนองค์ประกอบภาพได้ เลือกสไตล์ต่าง ๆ ได้ เช่น ให้เป็นภาพอนิเมชัน การ์ตูนแบบ 3 มิติ ภาพสเกตช์ สติกเกอร์ วิดีโอเกม และอื่น ๆ จากนั้นเราสามารถส่งภาพผ่านระบบ RCS ข้ามระบบไปหา iOS รวมถึง Android ด้วยกันเองได้
ในส่วนของกล้อง Google อ้างว่าเป็นเจ้าแรกของโลกที่นำพลัง AI มาทำงานร่วมกับกล้อง เริ่มที่ฟีเจอร์กล้องพาโนรามาใหม่ สามารถกดถ่ายผ่านจุด 3 จุดจากซ้ายไปขวาได้ โดยที่ไม่ต้องค่อย ๆ แพนมือถือแบบช้า ๆ รวมถึงยังเปลี่ยนภาพพาโนรามาให้เป็นภาพโหมดกลางคืนได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Add Me ที่สามารถถ่ายภาพแบบล็อกเฟรมไว้ จากนั้นให้คนที่ถ่ายสลับมาเข้าเฟรมได้ ทำให้ได้ภาพถ่ายแบบมีคนครบในเฟรม ไม่ต้องขอให้คนอื่นถ่ายให้แต่อย่างใด
มีฟีเจอร์ Guided Frame ให้เราสามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างเหมาะสมและสวยตามองค์ประกอบ มีฟีเจอร์ Magic Editor ที่สามารถปรับแต่งภาพได้ผ่านพลังของ AI ไม่ว่าจะเป็นการปรับความเอียง ที่สามารถทำให้ได้วัตถุแบบเต็มเฟรม แม้จะมีส่วนที่ขาดหายไป นอกจากนี้ยังสามารถแตะที่พื้นหลัง เพื่อเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงวัตถุ และองค์ประกอบภาพได้แบบเรียบเนียน
ในส่วนของวิดีโอ มีฟีเจอร์ Dual Exposure ที่สามารถถ่ายวิดีโอแบบมีค่า Exposure ต่ำ-สูง พร้อมกัน ให้ได้ วิดีโอที่มีแสงเหมาะสมและวิดีโอออกมาสวยงาม นอกจากนี้ยังมี Video Boost with Night Sight ที่ถ่ายวิดีโอกลางคืนได้ออกมามีแสงที่สว่างและสวยงามคมชัด
ขณะที่กล้องซูม Telephoto สามารถซูมได้ถ่ายสูงสุด 20 เท่าโดยที่ได้ภาพแบบคมชัด รวมถึงหลังจากที่ถ่ายวิดีโอระดับ 8K แล้ว เราสามารถดึงภาพขนาด 36 ล้านพิกเซลออกมาจากวิดีโอได้
Google Pixel 9 / Pixel 9 Pro / Pixel 9 Pro XL เปิดพรีออเดอร์ในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรปแล้ววันนี้ โดย Pixel 9 และ Pixel 9 XL จะเริ่มจัดส่งวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ขณะที่รุ่นอื่นจะเริ่มจัดส่งในเดือนกันยายนนี้
- Google Pixel 9 ราคาเริ่มต้น 799 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- Google Pixel 9 Pro ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- Google Pixel 9 Pro XL ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Google Pixel 9 Pro Fold
ต่อกันที่มือถือจอพับอย่าง Google Pixel 9 Pro Fold ที่ Google อ้างว่าเป็นมือถือจอพับที่มีขนาดบางที่สุดในโลก มาพร้อมจอ OLED แบบ Foldable เมื่อพับเครื่องจะมีหน้าจอขนาด 6.24 นิ้ว หากกางออกจะมีขนาด 8 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz เช่นกัน ปกป้องด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2 กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IPX8 เฟรมอะลูมิเนียม
Google Pixel 9 Pro Fold ทำงานบนระบบ Android 15 ได้ชิป Google Tensor G4 เช่นเดียวกัน มาพร้อม RAM ขนาด 16GB ไฮไลต์ของการใช้งานคือ สามารถเปิดยูทูบได้ถึง 4 จอพร้อมกันในเวลาเดียว และเลือกโฟกัสจอใดจอหนึ่งได้ ขณะที่จออื่นยังคงเล่นอยู่
ในส่วนของฟีเจอร์ต่าง ๆ จะได้มาเหมือนกับ Pixel 9 ซีรีส์รุ่นอื่น ๆ และยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาด้วย ได้แก่ Make You Look ที่จะแสดงภาพการ์ตูนให้เห็นบนจอด้านนอก ให้เด็ก ๆ สามารถยิ้มได้เมื่อถ่ายรูป โดยฟีเจอร์นี้ยังได้รับความร่วมมือกับ Disney Pixar ที่จะได้ "Joy" ตัวละครจากเรื่อง Inside Out มาช่วยเรียกรอยยิ้มด้วย และฟีเจอร์ปรีวิวภาพเหมือนมือถือจอพับทั่วไป
Google Pixel 9 Pro Fold เปิดพรีออเดอร์ในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรปแล้ววันนี้จะเริ่มจัดส่งในเดือนกันยายนนี้ มีราคาเริ่มต้น 1,799 ดอลลาร์สหรัฐฯ
Google Pixel Watch 3
ต่อกันที่นาฬิกาอัจฉริยะอย่าง Google Pixel Watch 3 ที่มาพร้อมดีไซน์ลักษณะคล้ายรุ่นเดิม เพิ่มเติมคือมีการเพิ่มรุ่นที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 45 มม. มีหน้าจอกว้างขึ้นกว่า 40% แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 35% ได้ความสว่างหน้าจอระดับ Super Bright Actua Display สว่างสูงสุด 2,000 นิต และสามารถลดความสว่างได้เหลือ 1 นิต เมื่อใช้งานในที่มืด กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68
ฟีเจอร์ต่าง ๆ จะมีตั้งแต่การเชื่อมต่อกับระบบสมาร์ตโฮม ไปจนถึงฟีเจอร์สุขภาพที่สามารถติดตามพัฒนาการการออกกำลังกายของเราได้ การตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียบไทม์ ซึ่งหากเราไม่มีสัญญาณชีพ จะมีฟีเจอร์ Loss of Pulse Detection ที่จะช่วยโทรขอความช่วยเหลือแบบอัตโนมัติทันที และหากสัญญาณชีพกลับมาภายใน 20 วินาที ก็สามารถยกเลิกได้ โดยฟีเจอร์นี้จะมีให้ใช้งานในยุโรปบางประเทศ และสหราชอาณาจักร ช่วงเดือนกันยายนนี้ และภูมิภาคอื่น ๆ จะตามมา
โดย Google Pixel Watch 3 รุ่น 41 มม. ราคาเริ่มต้น 349 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่รุ่น 45 มม. มีราคาเริ่มต้นที่ 399 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมเปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้
Google Pixel Buds Pro 2
ปิดท้ายด้วยหูฟังรุ่นใหม่อย่าง Google Pixel Buds Pro 2 ที่ยังคงมาในสไตล์คล้ายแบบเดิม โดย Google ระบุว่า Pixel Buds Pro 2 ถือเป็นหูฟังไร้สายรุ่นแรกในยุคของ Google Gemini มาพ้อมระบบ ANC, Audio Processing, และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ทำงานบนชิป A1 ที่ช่วยให้ตอบสนองเร็ว และตัดเสียงรบกวนได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อน 2 เท่า ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
Google Pixel Buds Pro 2 มีขนาดที่เบากว่าเดิม เล็กกว่าหูฟังไร้สายในตลาดโดยเฉลี่ยกว่า 27% รองรับสรีระหูทำให้อยู่ได้แน่นและคงทน ใส่แล้วสบายไม่เจ็บหู
ไฮไลต์ของ Google Pixel Buds Pro 2 คือการผสานการทำงานร่วมกับ Google Gemini ให้สามารถใช้งาน Gemini ผ่านหูฟังได้ รวมถึงสามารถสรุปบทสนทนาระหว่างโทรพร้อมถอดออกมาเป็นข้อความเก็บไว้ให้ได้เช่นเดียวกันกับ Google Pixel 9 ซีรีส์ด้วย
Google Pixel Buds Pro 2 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 299 ดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมเปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้