ไม่นานมานี้ "แซม อัลท์แมน" ซีอีโอบริษัท OpenAI เจ้าของแชตบอตชื่อดังอย่าง ChatGPT ได้โพสต์ลงเว็บบล็อกส่วนตัว ในหัวข้อ "ยุคสมัยแห่งปัญญา" (The Intelligence Age) ที่ระบุเกี่ยวกับความก้าวหน้าของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI, สิ่งที่เขาคาดว่าโลกจะได้เห็นในอนาคตไม่นานจากนี้, และผลกระทบต่อผู้คนที่เกิดขึ้น
โดย อัลท์แมน ต้องการนำเสนอว่า AI ไม่ใช่กระแสทางเทคโนโลยีที่เป็นเรื่องใหม่ของโลก แต่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่เรื่อย ๆ สามารถเข้ามาเปลี่ยนการใช้ชีวิตของผู้คนได้อย่างถาวร
รวมมือถือซัมซุง รองรับอัปเดต "One UI 6.1.1" นอกเกาหลีใต้ เดือนกันยายน
เหตุผลอะไรที่ทำให้เราสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน และจะแก้ไขอย่างไร ?
ประเด็นที่อัลท์แมนพูดถึง เช่น AI จะช่วยแก้ปัญหาที่ยากมาก ๆ ที่ผู้คนไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ ทำให้เราค้นพบสิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และผู้คนในอนาคตจะสามารถทำสิ่งที่เราทำไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้
การทำงานโดยมี AI เป็นเครื่องมือเสมือนผู้ช่วยในทุก ๆ ด้าน จะได้ผลลัพธ์มากกว่าการไม่มี AI เราสามารถสร้างทีมผู้ช่วยซึ่งเป็น AI ทั้งหมดจะทำงานร่วมกันในแบบที่เราไม่เคยนึกถึงมาก่อนได้
เด็กรุ่นใหม่จะมีติวเตอร์เสมือน สอนได้ทุกวิชา ทุกภาษา ยากง่ายตามที่ต้องการ
หากเราไม่มีโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่มารองรับ AI จะสามารถเข้าถึงได้เฉพาะคนมีเงินเท่านั้น และมั่นใจว่า AI จะเปลี่ยนรูปแบบตลาดแรงงานอย่างแน่นอน งานที่ไม่เคยคิดว่าเป็นงานได้จะกลายเป็นงานแทน
AI ที่สามารถทำได้ทุกอย่างรอบด้าน หรือ AI ระดับ Superintelligence จะมีให้เห็นในไม่กี่พันวันข้างหน้า (few thousand days)
ทั้งหมดเป็นไปได้เพราะการเรียนรู้เชิงลึกสามารถทำได้ดีมากขึ้น สเกลกว้างมากขึ้น และมีทรัพยากรรองรับมากขึ้น
อัลท์แมน ทิ้งท้ายว่า งานหลายอย่างที่เราทำในปัจจุบันอาจดูเหมือนเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์สำหรับผู้คนเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่ไม่มีใครมองย้อนกลับไปในอดีตแล้วยังอยากใช้แสงจากตะเกียงอยู่ หากคนที่ใช้แสงจากตะเกียงสามารถมองเห็นโลกในปัจจุบันได้ เขาคงคิดว่าความเจริญรุ่งเรืองรอบตัวเขาเป็นสิ่งที่ไม่อาจจินตนาการได้ และหากเราสามารถก้าวไปข้างหน้าอีก 100 ปีนับจากนี้ ความเจริญรุ่งเรืองรอบตัวเราก็คงเป็นสิ่งที่ไม่อาจจินตนาการได้เช่นกัน
ที่มา: ia.samaltman.com