ระบบปฏิบัติการ iOS 18 ที่ Apple เปิดอัปเดตทั่วไปเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันจันทร์ที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามามากมาย หนึ่งในนั้นคือ “Slow Charger” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยบอกเราขณะที่กำลังชาร์จ iPhone อยู่ได้ว่า เป็นการชาร์จตามความเร็วปกติ หรือเป็นการชาร์จที่ช้ากว่าปกติ
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า สาเหตุใดบ้างทำให้ iPhone ของเราชาร์จช้ากว่าปกติ?
MacRumors ได้ระบุถึง 4 สาเหตุหลักที่อาจทำให้ iPhone ของเราชาร์จช้ากว่าปกติ ได้แก่
- สายชาร์จให้พลังงานไฟฟ้า 7.5W หรือต่ำกว่า
- ที่ชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi1 ที่ให้พลังงานน้อยกว่า 10W
- พอร์ต USB ในรถยนต์หรือสถานที่สาธารณะ
- ที่ชาร์จที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่ออยู่หลายอุปกรณ์ขณะชาร์จ
โดย MacRumors ให้รายละเอียดว่า มีหลายสถานการณ์ที่อาจทำให้ความเร็วในการชาร์จ iPhone ช้าลง เช่น การใช้ที่ชาร์จปลอม หรือแม้แต่เครื่องชาร์จไร้สายบางรุ่นที่อ้างว่ารองรับ MagSafe กลับให้ความเร็วในการชาร์จในมาตรฐานระดับ Qi เท่านั้น
วิธีเปลี่ยนเสียงเรียกเข้า-เสียงรอสายเฉพาะแชตบน LINE
ส่อง 30 ลุค! พร้อมเคาะคะแนน "โอปอล สุชาตา" ก่อนรอบพรีลิมฯ "Miss Universe 2024" 15 พ.ย.นี้!
ย้อนดูมูลค่าตัวเลขการซื้อลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก ในประเทศไทย
หรือหากเราเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม เช่น หูฟัง ระหว่างการชาร์จแบบไร้สาย iPhone จะจำกัดพลังงานโดยอัตโนมัติเป็น 7.5W เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงการเปิดแอปฯ ที่ต้องการพลังงานสูง การเล่นเกมที่เน้นกราฟิก หรือการสตรีมวิดีโอด้วยความสว่างสูงขณะชาร์จ ก็อาจทำให้ความเร็วในการชาร์จลดลงได้เช่นกัน เนื่องจาก iPhone ใช้ทรัพยากรในการจัดการพลังงานและความร้อน
MacRumors เสริมว่า การชาร์จในสภาพแวดล้อมที่ร้อน หรืออบอ้าว อาจทำให้ iPhone ของเราหยุดชาร์จชั่วคราวได้ และจะกลับมาชาร์จอีกครั้งจนกว่าอุณหภูมิจะลดลง
ที่มา: MacRumors