เช็กมือถือซัมซุงรุ่นล่าสุดในแต่ละซีรีส์ ก่อนเปิดตัว "Galaxy S25"

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ชวนดูมือถือซัมซุงรุ่นล่าสุดในแต่ละซีรีส์ มีรุ่นไหนบ้าง เรียกน้ำย่อยก่อนการเปิดตัวทางการว่าที่เรือธงรุ่นใหม่ "Galaxy S25"

ช่วงเดือนมกราคม เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่แฟนซัมซุงหลายคนรอคอยการเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ โดยช่วงกลางเดือนมกราคมปี 2024 ซัมซุงได้เปิดตัว Galaxy S24 ซีรีส์ พร้อมวางจำหน่ายในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น มาครั้งนี้ปี 2025 ก็ถึงคิวของ “Galaxy S25” ว่าที่เรือธงรุ่นใหม่ที่พอจะมีข่าวลือออกมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับกล้อง Ultrawide และ Telephoto ให้มาเป็น 50MP บน S25 Ultra ไปจนถึงช่วงเวลาเปิดพรีออเดอร์

คอนเทนต์แนะนำ
ลือข้ามปี?! คาดไอโฟน 27 รุ่น รองรับอัปเดต "iOS 19" มิ.ย. 68

เช็กมือถือซัมซุงรุ่นล่าสุดในแต่ละซีรีส์ ก่อนเปิดตัว "Galaxy S25" AFP/JUNG YEON-JE
เช็กมือถือซัมซุงรุ่นล่าสุดในแต่ละซีรีส์ ก่อนเปิดตัว "Galaxy S25"

เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนเปิดตัว Galaxy S25 ซีรีส์อย่างเป็นทางการ วันนี้ PPTV จะชวนมาดูสมาร์ตโฟนของซัมซุงรุ่นล่าสุดของแต่ละซีรีส์ว่าเป็นรุ่นไหนบ้าง

Galaxy Z Fold

สำหรับมือถือจอพับตระกูล Z Fold ซีรีส์ คือ “Galaxy Z Fold6” เปิดตัวไปเมื่อ 10 กรกฎาคม 2024 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X กว้าง 6.3 นิ้ว และ 7.6 นิ้ว เมื่อกางออก ผลิตจากวัสดุหลายชั้น ช่วยให้สามารถพับหน้าจอและใช้งานได้ดีขึ้น ความสว่างสูงสุด 2,600 นิต มีเทคโนโลยี Ray Tracing ช่วยให้การแสดงผลแสงในเกมและการใช้งานต่าง ๆ มีความสมจริงยิ่งขึ้น ปกป้องหน้าจอด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2 ตัวเครื่องหนักเพียง 239 กรัมเท่านั้น

ขุมพลังใช้ Snapdragon8 Gen3 มี NPU เหนือกว่ารุ่นก่อน 42% และ GPU เร็วแรงขึ้นกว่ารุ่นก่อน 21% และยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่บน Galaxy AI ให้ใช้งานอย่าง Sketch to Image ที่สามารถเปลี่ยนภาพสเกตช์ของเราให้กลายเป็นภาพที่ Generate โดย AI ได้

ในส่วนของกล้อง จะมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลักเลนส์ Wide มีขนาด 50MP ซูมแบบออปติคัล 2 เท่า กล้อง Ultrawide ขนาด 12MP และกล้อง Tele ขนาด 10MP ซูมแบบออปติคัลได้ 3 เท่า ส่วนความอึดได้แบตเตอรี่ความจุกว่า 4,400mAh

Galaxy Z Fold6 มาพร้อม 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีเงิน Silver Shadow, สีชมพู Pink, และสีกรมท่า Navy และยังมีสีพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อบนเว็บไซต์ Samsung ด้วย ได้แก่ สีดำ Crafted Black และ สีขาว White

Galaxy Z Fold6 Samsung
Galaxy Z Fold6

Galaxy Z Flip

ส่วนมือถือจอพับแบบตลับ แน่นอนว่าเป็น “Galaxy Z Flip6” เปิดตัวในวันเดียวกันกับ Z Fold6 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED 2X กว้าง 3.4 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว เมื่อกางออก ผลิตจากวัสดุหลายชั้น ช่วยให้สามารถพับหน้าจอและใช้งานได้ดีขึ้น ความสว่างสูงสุด 2,600 นิต มีเทคโนโลยี Ray Tracing ช่วยให้การแสดงผลแสงในเกมและการใช้งานต่าง ๆ มีความสมจริงยิ่งขึ้น ปกป้องหน้าจอด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2 ตัวเครื่องหนักเพียง 187 กรัมเท่านั้น

ขุมพลังใช้ Snapdragon 8 Gen3 มี NPU เหนือกว่ารุ่นก่อน 42% และ GPU เร็วแรงขึ้นกว่ารุ่นก่อน 21% ได้ 3 ฟีเจอร์ AI อย่าง Live Translate, Photo Assist, และ Chat Assist ไว้ใช้งาน

ในส่วนของกล้อง จะมาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัว กล้องหลักเลนส์ Wide มีขนาด 50MP ซูมแบบออปติคัล 2 เท่า กล้อง Ultrawide ขนาด 12MP และกล้องหน้าขนาด 10MP  ส่วนความอึดได้แบตเตอรี่ความจุกว่า 4,400mAh

นอกจากนี้ ยังมี FlexCam Autozoom ที่สามารถซูมภาพให้เห็นแบบเต็มเฟรมแบบอัตโนมัติ รวมถึง Instant Slow-Mo และ Cinematic Slow-Mo ที่จะช่วยให้ภาพสว์โมชันของเราออกมาได้อย่างมีสไตล์

Galaxy Z Flip6 มีตัวเลือกในการสร้างวอลเปเปอร์ที่สามารถเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมได้ ตั้งแต่ช่วงกลางคืน ฝนตก หรือแม้กระทั่งหิมะตก นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Live Call Translate ได้กว่า 20 ภาษา

Galaxy Z Flip6 มี 4 สีให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ สีเงิน Silver Shadow, สีน้ำเงิน Blue, สีเหลือง Yellow, และสีมิ้นต์ Mint และยังมีสีพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อบนเว็บไซต์ Samsung ด้วย ได้แก่ สีดำ Crafted Black, สีขาว White, และสีพีช Peach

Galaxy Z Flip6 Samsung
Galaxy Z Flip6

Galaxy S

ต่อกันที่ซีรีส์เรือธง สำหรับรุ่นล่าสุดอย่าง Galaxy S24 ซีรีส์ ที่เปิดตัวช่วงมกราคมปี 2024 มีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วยตัวมาตรฐานอย่าง “Galaxy S24” มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Dynamic LTPO AMOLED 2X อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz คมชัดระดับ 1080 x 2340 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 2,600 นิต ปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ขอบอลูมิเนียม กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 มี 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ Onyx Black, สีเทา Marble Grey, สีม่วง Cobalt Violet, และสีเหลือง Amber Yellow

ด้านขุมพลังของ Samsung Galaxy S24 ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm SM8650-AB Snapdragon 8 Gen 3 เวอร์ชันจำหน่ายในสหรัฐฯ และ Exynos 2400 เวอร์ชัน Global ความจุ RAM 8GB ความจุ ROM 512GB มีเทคโนโลยี Ray Tracing ที่ช่วยให้กราฟิกแสงมีความสมจริง ส่วนแบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออน ความจุ 4,000 mAh รองรับระบบชาร์จไร้สาย 15W ชาร์จแบบมีสาย 25W ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที

Samsung Galaxy S24 มีกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กล้องเทเลโฟโต้ 10 ล้านพิกเซล f/2.4 และกล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 รองรับการถ่ายวิดีโอคมชัด 4K ที่ 30-60 fps ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 12 ล้านพิกเซล

ต่อกันที่ “Galaxy S24+” มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Dynamic LTPO AMOLED 2X อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 2,600 นิต ปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ขอบอลูมิเนียม และกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 แต่จะมีความคมชัดกว่า Samsung Galaxy S24 ที่ให้มา 1440 x 3088 พิกเซล มาพร้อม 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ Onyx Black, สีเทา Marble Grey, สีม่วง Cobalt Violet, และสีเหลือง Amber Yellow

ด้านขุมพลังของ Samsung Galaxy S24+ ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm SM8650-AB Snapdragon 8 Gen 3 ความจุ RAM 12GB ความจุ ROM สูงสุด 512GB มีเทคโนโลยี Ray Tracing เช่นกัน แบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออน ความจุ 4,900 mAh รองรับระบบชาร์จไร้สาย 15W ชาร์จแบบมีสาย 25W ชาร์จได้ 65% ใน 30 นาที

Galaxy S24+ มีกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กล้องเทเลโฟโต้ 10 ล้านพิกเซล f/2.4 และกล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 รองรับการถ่ายวิดีโอคมชัด 4K ที่ 30-60fps ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 12 ล้านพิกเซล

และ Galaxy S24 Ultra ใช้วัสดุไทเทเนียม มาพร้อมจอแสดงผลแบบ Dynamic LTPO AMOLED 2X อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 2,600 นิต ปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 3 ขอบอลูมิเนียม และกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 แต่จะมีความคมชัดกว่า Samsung Galaxy S24 ที่ให้มา 1440 x 3088 พิกเซล มี 4 สีเช่นเดียวกัน ได้แก่ สีดำ Titanium Black, สีเทา Titanium Gray, สีเหลือง Titanium Yellow และ มีม่วง Titanium Violet

ด้านขุมพลังของ Samsung Galaxy S24 Ultra ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm SM8650-AB Snapdragon 8 Gen 3 ขนาด 4 นาโนเมตร ความจุ RAM สูงสุด 12GB ความจุ ROM สูงสุด 1TB แบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออน ความจุ 5,000 mAh รองรับระบบชาร์จไร้สาย 15W ชาร์จแบบมีสาย 25W ชาร์จได้ 65% ใน 30 นาที

Galaxy S24 Ultra มีกล้องหลัง 4 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล กล้องเทเลโฟโต้ 10 ล้านพิกเซล กล้อง Periscope 50 ล้านพิกเซล รองรับการซูมแบบออปติคัล 5 เท่า และซูมแบบออปติคัล 10 เท่า และกล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 12 ล้านพิกเซล

ไฮไลต์ของ Samsung Galaxy S24 Ultra สามารถถ่ายรูปแบบเก็บสีและรายละเอียดได้สูงสุดด้วย   ProVisual Engine ที่จะใช้งานร่วมกับกล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล ซึ่งแอปฯ อินสตาแกรม และสแนปแชต ก็รองรับภาพคุณภาพสูงดังกล่าวด้วย และกล้องซูมยังได้เทคโนโลยีการซูมและถ่ายรูปได้ชัดในที่แสงน้อย ผ่านการช่วยเหลือของ AI ด้วย

นอกจากนี้ ยังมี AI ที่ช่วยลดเงาและแสงตกกระทบได้ และยังสามารถลบ-เคลื่อนย้ายวัตถุในภาพได้แบบเนียนตาอีกด้วย และยังมี ProVisual Engine ยังมีฟีเจอร์ Instant Slow Motion ที่จะช่วยให้เราสามารถเลือกถ่าย Slow Motion แบบเฉพาะเจาะจง รวมถึง Quick Share ที่จะช่วยให้สามารถแชร์ภาพได้อย่างรวดเร็วและหลากหลายแพลตฟอร์ม

Galaxy S24 ซีรีส์ Samsung
Galaxy S24 ซีรีส์

Galaxy Fan Edition (Galaxy FE)

ต่อกันกับรุ่นรองอย่าง “Galaxy S24 FE” มีหน้าจอแสดงผลขนาด 6.7 นิ้ว แบบ Dynamic AMOLED 2X อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz คมชัดระดับ 1080 x 2340 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 1,900 นิต ปกป้องหน้าจอด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus+ ขอบอะลูมิเนียม กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP68 มี 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีน้ำเงิน Blue สีดำ Graphite และสีเขียว Mint

ด้านขุมพลังของ Galaxy S24 FE ใช้ชิปเซ็ต Exynos 2400e ความจุ RAM 8GB ความจุ ROM 128GB - 512GB มีเทคโนโลยี Ray Tracing ที่ช่วยให้กราฟิกแสงมีความสมจริง ส่วนแบตเตอรี่เป็นลิเธียมไอออน ความจุ 4,700 mAh รองรับระบบชาร์จไร้สาย 15W ชาร์จแบบมีสาย 25W ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที

Galaxy S24 FE มีกล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กล้องเทเลโฟโต้ 8 ล้านพิกเซล f/2.4 และกล้องอัลตร้าไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 รองรับการถ่ายวิดีโอคมชัด 4K ที่ 30-60 fps ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 10 ล้านพิกเซล

Galaxy S24 FE Samsung
Galaxy S24 FE

Galaxy A

สำหรับระดับกลางอย่าง A ซีรีส์ตัวล่าสุดคือ “Galaxy A16 5G” มือถือรุ่นแรกของตระกูล A X6 ซีรีส์ ที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2024 มาพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่กว่ารุ่น A15 ที่ 6.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED พร้อมความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล (FHD+) และอัตราการรีเฟรช 90Hz ความสว่างสูงสุด 800 นิต กับการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 เป็นครั้งแรกในกลุ่มมือถือราคาประหยัดของซัมซุง และยังมาพร้อม 4 สีให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ สีน้ำเงินเข้ม สีฟ้า Turquoise สีเทา และสีทอง

ด้านขุมพลัง Galaxy A16 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Mediatek Dimensity 6300 ขนาด 6 นาโนเมตร พร้อมแบตเตอรี่ 5000mAh รองรับชาร์จไว 25W นอกจากนี้ยังมี RAM เริ่มต้น 4GB สตอเรจเริ่มต้น 128GB รองรับ microSD สูงสุด 1.5TB ได้ระบบปฏิบัติการ One UI 6.1 ครอบทับ Android 14 รองรับอัปเดตซอฟต์แวร์ยาวนานกว่า 6 + 6 ปี (จากเดิม 4 + 5 ปี) ที่ถือว่ามากสุด เป็นรองเฉพาะรุ่นเรือธงเท่านั้น

ส่วนกล้อง Galaxy A16 5G มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กล้อง Ultrawide 5 ล้านพิกเซล f/2.2 และกล้อง macro 2 ล้านพิกเซล ขณะที่กล้องหน้าให้มาที่ 13 ล้านพิกเซล

Galaxy A16 5G Samsung
Galaxy A16 5G

Galaxy M

และปิดท้ายสำหรับรุ่นเล็กของซัมซุง กับ “Galaxy M55s 5G” มาพร้อมจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz ให้ความสว่างสูงสุด 1,000 นิต มี 2 สีเหมือน Galaxy M55 คือ สีดำ Thunder Black และสีเขียวอ่อน Coral Green

ด้านขุมพลัง Galaxy M55s 5G ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 7 Gen 1 ตัวเดียวกันกับ Galaxy M55 สามารถเลือก RAM ได้สูงสุด 12GB สตอเรจสูงสุด 256GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ OneUI 6.1 ครอบทับ Android 14 และยังมีแบตเตอรี่ขนาด 5,500 mAh รองรับชาร์จไว 45W

ในส่วนของกล้อง Galaxy M55s 5G กล้องหลังมีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักขนาด 50 ล้านพิกเซล กล้อง Ultrawide ขนาด 8 ล้านพิกเซล และกล้อง Depth ขนาด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าเป็นแบบเจาะรูขนาด 50 ล้านพิกเซล

Galaxy M55s 5G Samsung
Galaxy M55s 5G

ที่มา: SAMMOBILE

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ