‘นินเทนโด’ บริษัทเกมยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น เปิดตัว ‘Switch 2’ เครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทอย่างเป็นทางการทั่วโลกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ท่ามกลางคาดการณ์เกี่ยวกับปัญหาสินค้าขาดตลาดทั่วโลก เนื่องจากความต้องการเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ที่สะสมมาตั้งแต่รุ่นก่อนยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ ‘Switch’ รุ่นแรก เปิดตัวในปี 2017 ต่อจากเครื่อง ‘วียู’ (Wii U) ที่มียอดขายไม่เข้าเป้า
โดย Switch เป็นเครื่องเล่นเกมพกพาที่ประสบความสำเร็จอย่างล่นหลามจากหลายเกมดัง รวมถึง The Legend of Zelda ทั้งสองภาค และ Animal Crossing: New Horizons ที่ได้รับความนิยมในช่วงการระบาดของโควิด-19
สำหรับ Switch 2 ยังมีรูปร่างหน้าตาคล้ายเครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นก่อน แต่มาพร้อมกับหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นที่ 7.9 นิ้ว กราฟิกที่ไหลลื่นขึ้นที่ 120 fps และยังมาพร้อมการปรับการจับให้สามารถเล่นเหมือนยิงปืน ขับรถ หรือเหมือนจอยสติ๊กได้ พร้อมเปิดตัวพร้อมเกมใหม่ อย่าง Mario Kart World
นอกจากนี้ ยังมีเกมอื่น ๆ อย่าง ARMS, Big Brain Academy™: Brain vs. Brain, Captain Toad™: Treasure Tracker, Clubhouse Games™: 51 Worldwide Classics, Game Builder Garage™, New Super Mario Bros.™ U Deluxe, Pokémon™ Scarlet, และ Pokémon™ Violet
เครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่จาก นินเทนโด เปิดตัวที่ 499 ดอลลาร์หรือราว 16,300 บาท และยังถือเป็นบททดสอบด้านการบริหารซัพพลายเชนของบริษัทหลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ในเดือนที่แล้ว นินเทนโด คาดการณ์ว่าจะจำหน่าย Switch 2 ได้ 15 ล้านเครื่องในปีงบประมาณปัจจุบัน โดย ชุนทาโร ฟุรุกาวะ ประธานบริษัทให้คำมั่นว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการ และจะมุ่งเน้นด้านการส่งเสริมการขายเพื่อให้ยอดเกินเป้า
ทั้งนี้ เว็บไซต์ Ampere Analysis คาดการณ์ว่า ยอดขายเครื่อง Switch 2 จะทะลุ 100 ล้านเครื่องภายในปี 2030 หลังจาก นินเทนโด เคยขาย Switch รุ่นแรก ได้แล้วรวมกว่า 152 ล้านเครื่อง ทั่วโลก