มหกรรมกีฬา โอลิมปิกเกมส์ หรือ "ริโอเกมส์ 2016" เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน (19 ส.ค.) นักกีฬาไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง จาก 2 ชนิดกีฬา คือยกน้ำหนัก และเทควันโด
โดยถึงตอนนี้เหลือนักกีฬาไทยเพียง 2 คนเท่านั้นที่ยังมีลุ้นเหรียญคือ อแมนด้า คาร์ นักกีฬาจักรยาน BMX สาวของไทย ที่จะลงแข่งขันรอบรองชนะเลิศคืนนี้ (19 ส.ค.) เวลา 23.30 น. "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล และ "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ 2 โปรกอล์ฟสาวของไทย ที่จะแข่งขันรอบ 3 ในคืนนี้
แม้ว่าผลงานของนักกีฬาไทยจะไม่เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ว่าจะได้เหรียญมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ (เทียบจากสถิติและผลงาน) แต่ก็ถือว่ายังทำให้คนไทยหัวใจพองโตที่ได้เห็นธงชาติไทยเชิญสู่ยอดเสาที่นครริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล
ผลงานของนักกีฬาตัวเต็งของไทยอย่าง "น้องณี" สุทธิยา จิวเฉลิมมิตร เป้าบินสาวไทย ซึ่งเป็นเบอร์ 1 ของโลก ส่วนตัวผมรู้สึกช็อกกับผลงานของเธอ เพราะไม่คิดว่าจะจอดป้ายเพียงแค่รอบคัดเลือก เพราะจากสถิติและผลงานก่อนตีตั๋วมา "ริโอ เกมส์" ถือว่าสร้างความหวังลึกๆให้กับคนไทยที่จะได้เห็นเหรียญประวัติศาสตร์จากกีฬาเป้าบิน
อีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ถือว่าเป็นความหวังของคนไทยที่วันนี้ขออนุญาติเขียนถึงคือ "แบดมินตัน" ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าทีมลูกขนไก่ไทยทำผลงานเต็มที่แล้ว และขอยกย่อง ชื่นชม
แต่ที่แอบเสียดายคือ "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ และ "น้องพีช" พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข 2 สาว หญิงเดี่ยวของไทย ที่คนไทยแอบตั้งความหวังไว้ลึกๆ
ผลงานของ "น้องพีช" ที่เข้าไปถึงรอบ 8 คนสุดท้าย ก่อนจะแพ้ให้ หลี่ เสียวเร่ย มือ 3 ของโลกจากจีน 0-2 เกม ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะไม่ได้ไปต่อแต่ก็ได้ใจคนไทยทั้งประเทศ
ส่วนผลงานของ "น้องเมย์" นั้น แอบเสียดายที่ "น้องเมย์" หยุดตัวเองไว้ที่รอบ 16 คน หลังพ่ายให้กับ อากาเนะ ยามากูชิ มือ 12 ของโลก ของญี่ปุ่น 0-2 เกม
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ "กูรู" แบดมินตัน ที่มาแลกเปลี่ยนความรู้กัน ซึ่ง "กูรู" ท่านนี้ วิเคราะห์ สาเหตุที่ "น้องเมย์" ตกรอบเร็วกว่ากำหนดได้น่าฟัง
สาเหตุที่ ขนไก่สาวเบอร์ 1 ของ ไทย ตกรอบเร็วกว่ากำหนด ส่วนหนึ่งมาจากความกดดัน เนื่องจากก่อนที่จะมาโอลิมปิก "น้องเมย์" ต้องผ่านเรื่องราวมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสารกระตุ้น ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าสร้างความกดดันให้เจ้าตัวไม่น้อย
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะผ่านมาได้ แต่ก็ถูกคาดหวังว่าจะเป็นนักกีฬาที่หยิบเหรียญกลับมาฝากคนไทยได้ ทำให้ "น้องเมย์" มีความกังวลในใจ แม้ว่าเจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่กดดัน แต่แววตาและท่าทางเวลาให้สัมภาษณ์กับสื่อ กลับไม่เป็นเช่นนั้น
อีกส่วนคือสไตล์การเล่นที่ไม่หลากหลาย โดยเฉพาะในเกมที่แพ้ อากาเนะ ยามากูชิ จะเห็นได้ว่า นักแบดสาวญี่ปุ่นรู้สไตล์การเล่นของ "น้องเมย์" เป็นอย่างดี รู้ว่าน้องเมย์ถนัดการโจมตีจากท้ายคอร์ด โดยเฉพาะลูกกระโดดตบ 2 มุมหลัง รวมถึงการเล่นหน้าเน็ตที่ดี จึงแก้เกมด้วยการเล่นลูกเตี้ย เร็ว เพื่อปิดโอกาสไม่ให้เมย์เล่นลูกที่ตัวเองถนัด ทำให้เป็นฝ่ายเล่นในเกมของตัวเองได้จนเป็นฝ่ายปิดเกมไป
สิ่งที่ "น้องเมย์" ต้องเร่งแก้ไขคือเรื่องพละกำลัง และการเข้าทำที่รวดเร็ว รวมถึงปรับสไตล์การเล่นให้หลากหลายมากขึ้น ได้ทั้งบุกและรับ เชื่อว่าประเด็นต่างๆเหล่านี้โค้ชที่ดูแล รวมถึงสมาคมแบดมินตัน คงจะมองเห็นเช่นเดียวกัน และกำลังหาทางปรับแก้กันต่อไป เพื่อความสำเร็จในอนาคต
ที่เขียนเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าตัวเองเก่ง หรืออวดรู้แต่อย่างใด แต่เป็นเพียงมุมมอง และเสียงสะท้อนที่อยากเห็นขวัญใจของคนไทยประสบความสำเร็จสูงสุดในอีก 4 ปีข้างหน้า
คือการหยิบเหรียญทอง "โตเกียวเกมส์" กลับมาฝากคนไทย...!!!!
