คอลัมน์ ต้น...ทางฟุตบอล by ต้น วโรดม : ตกลงคือพรหมลิขิต(ใช่มั้ย)?


โดย PPTV Online

เผยแพร่




คอลัมน์ ต้น...ทางฟุตบอล by ต้น วโรดม

โลกฟุตบอล สถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ง่ายเสียเหลือเกิน

2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล ของเจอร์เก้น คล็อปป์ กุมความได้เปรียบคู่แข่งในการแย่งอันดับที่ 4 อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเบ็ดเสร็จ

สัปดาห์ต่อมา กลายเป็นแมนฯยูไนเต็ด ที่พลิกสถานการณ์กลับมาคุมความได้เปรียบไว้กับมือตัวเอง หลังลิเวอร์พูลพลาดท่าพ่ายพลิกล็อคให้กับคริสตัล พาเลซ คาบ้าน ชนิดที่เดอะ ค็อป ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

แมนฯยูไนเต็ด แม้จะมีคะแนนน้อยกว่าลิเวอร์พูลในเวลานั้น 3 คะแนน แต่ยังมีเกมอยู่ในมืออีกถึง 2 เกม นั่นหมายความว่าหากแมนฯยูไนเต็ด สามารถเก็บได้มากกว่า 4 จาก 6 คะแนนเต็ม แมนฯยูไนเต็ดจะแซงลิเวอร์พูลขึ้นมาและผลักทีมคู่รักคู่กัดลงไปสู่อันดับ 5 ทันที ประจวบเหมาะกับโปรแกรมของแมนฯยูไนเต็ด ที่จะต้องเตะนัดตกค้างกลางสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับในช่วงสุดสัปดาห์ที่แมนฯยูไนเต็ดจะได้ลงสนามแข่งก่อนลิเวอร์พูล ... 2 เกมในมือที่ว่า จะเกิดขึ้นในสัปดาห์เดียว ลิเวอร์พูลอาจจะนำหน้าแมนฯยูไนเต็ดมาหลายสัปดาห์(จริงๆหน่วยเป็นเดือน) แต่ขอเวลาแค่สัปดาห์เดียวแมนฯยูไนเต็ดสามารถเขี่ยลิเวอร์พูลร่วงลงอันดับ 5 ได้ทันที

งานนี้พูดได้อย่างเดียวว่า “สระไดร์ครับ สระไดร์”

แต่ความสะใจที่ไม่ใช่สระไดร์ ดันอยู่กับแมนฯยูไนเต็ดได้เพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น เมื่อแมนฯยูไนเต็ดทำได้เพียงเสมอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และสวอนซี เก็บได้เพียง 2 คะแนน จาก 6 คะแนนเต็ม แซงลิเวอร์พูลไม่สำเร็จ ปล่อยให้แฟนปิศาจแดงฝันค้างแบบไม่ได้ทันเตรียมใจ

นี่คือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเกมที่ลิเวอร์พูลลงสนามพบกับวัตฟอร์ด ทีมอันดับ 13 ของตาราง ซึ่งถ้าหากลิเวอร์พูลเอาชนะเกมนี้ได้ เท่ากับว่าพวกเขาจะมีแต้มต่อแมนฯยูไนเต็ด เป็น 4 คะแนนทันที (แต่ลงสนามมากกว่า 1 เกม)

ลิเวอร์พูลอาจจะดูกระท่อนกระแท่นหลายครั้งในฤดูกาลนี้ ด้วยปัญหาผู้เล่นตัวจริงบาดเจ็บ บวกกับตัวสำรองที่มีน้อยทำให้พวกเขาไม่สามารถรักษามาตราฐานของทีมเอาไว้ได้ จนต้องพ่ายแพ้ปราชัยไปหลายต่อหลายครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ มีในฤดูกาลนี้ คือ “ดวง” นั่นเอง หลายครั้งที่พวกเขาเพลี่ยงพล้ำ ก็ได้ดวงนี่แหละที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลยังอยู่ในตำแหน่งตรงนี้ได้ แทนที่จะโดนคู่แข่งอย่าง แมนฯยูไนเต็ด และแมนฯซิตี้ ทำคะแนนแซงนำ กลับกลายเป็นทีมคู่แข่งทำคะแนนหกเรี่ยราดไปซะอย่างนั้น แบบนี้ไม่เรียกว่า โชคดี ได้อย่างไร

กลับมาที่เกมลิเวอร์พูลพบวัตฟอร์ด เกมสำคัญที่ลิเวอร์พูลจำเป็นต้อง “ชนะ” เพื่อทำคะแนนฉีกหนี 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ ให้ได้มากที่สุด นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ผมพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า “เทพธิดาแห่งโชค” กำลังยืนอยู่ข้างทีมเครื่องจักรสีแดงทีมนี้

แม้ลิเวอร์พูลจะต้องสูญเสียคูตินโญ่ไปตั้งแต่นาทีที่ 12 จากอาการบาดเจ็บ แต่คนที่ลงมาแทนอย่างอดัม ลัลลาน่า กลับทำผลงานทดแทนได้เป็นอย่างดีทั้งๆที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ นั่นคือโชคชั้นที่ 1

และก็เป็นอดัม ลัลลาน่า คนนี้นี่เองที่เกือบเปิดสกอร์ให้กับทีมเยือนขึ้นนำ หลังเก็บตกลูกเตะมุมก่อนยิงลูกใบไม้ร่วงแบบไม่จับชนคานดังสนั่น ในนาทีที่ 40 อ้าวไหนว่ามากับดวง ทำไมถึงไม่เข้าๆไปเลยหล่ะ

เราไม่รู้อนาคตหรอกว่าอะไรกำลังรอเราอยู่ ความล้มเหลวในวันนี้ อาจจะเพื่อเปิดโอกาสดีดีในอนาคตที่จะเข้ามาก็ได้

ลิเวอร์พูลใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที + 2 นาทีในช่วงทดเจ็บ เป็นตัวอย่างของประโยคนี้ได้ดี และจุดเริ่มต้นก็มาจากอดัม ลัลลาน่า (อีกแล้ว) ที่ไขว้จ่ายหลอกผู้เล่นฝั่งตรงข้าม บอลไปยังดิวอก โอริกี้ ก่อนป้ายต่อให้ลูคัส เลว่า และสิ่งมหัศจรรย์ก็บังเกิด ลูคัส บรรจงหยอดบอลเข้าเขตโทษจังหวะเดียวกับที่เอมเร่ ชาน วิ่งสอดขึ้นมา ... ใช้หัวสิชาน ใช้หัว !! กองเชียร์ลิเวอร์พูลทั่วโลกคงคิดแต่เรื่องเบสิกแบบนั้น แต่สำหรับ “เมสซี่ ชาน” ผู้ที่กำลังมั่นใจกับฟอร์มของตัวเองไม่คิดเช่นนั้น กระโดดลอยตัวฟาดบอลข้ามหัวตัวเอง ยิงลูกโอเวอร์เฮด คิก สุดสวย บอลปลิวเข้าหน้าต่างไปกองก้นตาข่ายชนิดที่ว่าตะลึงกันทั้งสนาม นี่คือโชคครั้งที่ 2 เพราะพูดกันตรงๆ ลูกนี้ยากมากที่จะยิงได้แบบนี้ ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันอย่างลงตัว ทั้งลูกหยอดจากลูคัส และลูกลอยตัวขึ้นฟาดของชาน

ลิเวอร์พูลได้ประตูนำก่อนจบครึ่แรกในเวลาที่ทีมเจ้าบ้านไม่มีโอกาสแก้ตัว เจอหมัดนี้เข้าไปถ้าผมเป็นนักเตะวัตฟอร์ดก็คงงงๆ อ้าว ตามหลัง ซะอย่างนั้น

ตรงนี้มีสถิติน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่ง คือ ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกได้บ่อยมาก และนี่คือ ครั้งที่ 4 ที่พวกเขาทำได้ และหากนับการลั่นสกอร์หลังนาทีที่ 40 จนจบครึ่งแรก นี่เป็นลูกที่ 8 แล้วของพวกเขาในฤดูกาลนี้ ... เรียกได้ว่า เป็นช่วงเวลาเก่งก็คงไม่ผิดนัก

ครึ่งหลังเกมอาจจะดูเนื่อยๆไปบ้าง แต่ตราบใดที่ยังเพิ่มลูกที่ 2 ไม่ได้ ก็ไม่มีอะไรแน่นอนใน 3 คะแนนของลิเวอร์พูล นี่อาจจะเป็นคาแรคเตอร์ประจำทีมไปแล้วก็ได้ “ไม่เสียวไม่ใช่หงส์” โอกาสของลัลลาน่า โอกาสของสเตอริดจ์จึงยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นลูกที่ 2 ให้กับทีมเยือนได้สักที

จนมาถึงช่วงไครแม็กซ์ นั่นคือ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 3 จากลูกฟรีคิกที่โยนเข้ามา เซบาสเตียน โพรเดิ้ล ได้ยิงเต็มๆ บอลชนคานจังเบ้อเร้อ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเปลี่ยนจากคานเป็นเข้า วัตฟอร์ดตามตีเสมอได้จะเป็นอย่างไร และนี่คือโชคครั้งที่ 3

จบเกม ลิเวอร์พูลเอาชนะวัตฟอร์ดไปได้ 0-1 เก็บชัยชนะในเกมเยือนนัดสำคัญเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันได้เป็นผลสำเร็จ (ก่อนหน้าบุกไปชนะสโต๊ค และเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนมาได้) ทำคะแนนหนีแมนฯยูไนเต็ดออกไป 4 คะแนน แต่ลงสนามมากกว่า 1 เกม กุมความได้เปรียบเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เกมสุดท้าย

กวาดตาดูโปรแกรมที่เหลือของ 4 ทีมที่กำลังลุ้นอันดับ 3-4 ในตาราง แมนฯยูไนเต็ด ดูจะมีโปรแกรมที่โหดที่สุดเมื่อต้องออกไปเยือนทั้งอาร์เซน่อล และท็อทแน่ม ฮอตสเปอร์ส รวมถึงลงใต้ไปเตะกับเซาท์แธมป์ตัน ในขณะที่ยังมีเกมยูโรป้า ลีก ที่ต้องไฟว์กับเซลต้า บีโก้ อีก 2 เกม คั่นเป็นเกมกลางสัปดาห์อยู่

ทุกอย่างเข้าทางลิเวอร์พูลเต็มประตู คำถามเดียวตอนนี้ คือ พวกเขาพร้อมที่จะฉวยโอกาสที่ได้เปรียบในครั้งนี้ไว้ได้หรือไม่

เกมกับคริสตัล พาเลซ คือ บทเรียนที่ดีที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเอามาสอนลูกทีม โดยเฉพาะกับรูปแบบการเล่นในบ้านที่ทีมเน้นบุกแหลก ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหน จนโดนสวนตูมเสียประตูมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ถ้าอยากจะชนะบางที ก็ต้องเล่นอะไรที่มันรัดกุมมากกว่านี้ ใจเย็น รอคอยจังหวะคู่แข่งพลาดให้มากกว่านี้

ถึงเวเลาแล้วที่ลิเวอร์พูลจะงัดทุกหมากเด็ดออกมา เพื่อรับประกันว่า พวกเขาจะติด 1 ใน 4 ของตารางคว้าตั๋วไปลุยบอลยุโรปถ้วยใหญ่ในฤดูกาลหน้า

พรหมลิขิตอาจจะอยากให้ลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ดังนั้น อีก 3 เกม ขอเน้นผล ไม่เน้นสนุกนะ เด็กๆ

ค่ำคืนวันอังคารและพุธที่มีฟุตบอลยุโรปที่แอนฟิลด์ สนามที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานบนโลกลูกหนัง กำลังจะกลับมา

แล้วเมื่อถึงเวลานั้น เราจะได้เห็นลิเวอร์พูล ของจริง ไม่ติงนัง แบบชุดใหญ่รัชดาลัย แน่นอน

 

ต้น วโรดม

 

AFP Photo / ADRIAN DENNIS
AFP Photo / OLI SCARFF
AFP Photo / LINDSEY PARNABY

TOP บทความกีฬา
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ