โดยเกมนี้ทีมชาติอังกฤษอาจจะขาด เดเล่ อัลลี ดาวเตะจากสเปอร์ที่มีอาการบาดเจ็บติดตัวมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แต่ศูนย์หน้าฟอร์มร้อนแรงอย่างแฮร์รี เคนที่ยิงไปแล้ว 6 ประตูนำเป็นดาวซัลโวบอลโลกอยู่ในขณะนี้พร้อมลงล่าตาข่ายแน่นอน
ด้านสวีเดนที่เข้ารอบน็อกเอาท์มาด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ต่อด้วยการเฉือนชนะสวิตเซอร์แลนด์ 1-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย กำลังเข้าฟอร์มสุด ๆ โดยเฉพาะเกมรับที่เสียประตูยากมาก ด้านตัวผู้เล่นก็ไม่มีใครบาดเจ็บหรือติดโทษแบน แถมจะได้เซบาสเตียน ลาสสัน กลับมาจากโทษแบนในรอบที่แล้วด้วย เรียกได้ว่าฟูลทีมสุด ๆ
โดยสถิติการพบกันทั้ง 2 ทีมนับตั้งแต่ปี 1979 เจอกันทั้งหมด 15 ครั้ง เป็นฝ่ายสวีเดนที่เหนือกว่าอย่างชัดเจนด้วยการเก็บชัยได้ถึง 5 นัด เสมอกัน 8 นัด และอังกฤษชนะได้เพียง 2 นัดเท่านั้น ท่าทางรอบนี้สิงโตคำรามที่หนีสายยากมาอยู่สายง่ายอาจจะต้องเหนื่อยหน่อย เพราะเจอคู่ต่อสู้ที่ตัวเองแพ้ทาง ตรงกับสำนวนไทยที่ว่า "งูหลามกับเชือกกล้วย" เป๊ะ ๆ