“โครแอต” ทุ่มสุดตัวดวล “สิงโตคำราม” ลุ้นเข้าชิงถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก2018

เผยแพร่ 11 ก.ค. 2561, 15:45น.

คืนนี้ (11 ก.ค. 2561) เวลา 01.00 น. จะเป็นศึกนัดที่สองเพื่อหาทีมที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยระเป็นการปะทะกันระหว่าง ทีมชาติโครเอเชีย และ ทีมชาติ อังกฤษ ผู้ชนะจะได้เข้าไปชิงถ้วยกับทีมชาติฝรั่งเศส แต่หากแพ้ ก็จะต้องไปชิงตำแหน่งที่ 3 กับเบลเยียมแทน โค้งสุดท้ายของศึกเพื่อศักดิ์ศรีและเกียรติยศ เริ่มขึ้นแล้ว!

หลังจากที่เมื่อคืนแฟนฟุตบอลทั้งหลายได้ทราบกันไปแล้วว่าทีมแรกที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศก็คือทัพ “ตราไก่” ฝรั่งเศส คืนนี้ (11 ก.ค. 2561) เวลา 01.00 น. ต้องมาลุ้นกันต่อว่าใครจะเป็นผู้ชนะและเข้าไปชิงถ้วยแชมป์กับฝรั่งเศสในวันที่ 15 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ระหว่าง “ตาหมากรุก” โครแอต ที่ทำผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจในฟุตบอลโลกปีนี้ กับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ที่รอโอกาสในการเข้าสู่รอบลึก ๆ มานานเพื่อพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่าอังกฤษยังมีดีอยู่ในด้านฟุตบอลอยู่

สำหรับ ทัพ “ตาหมากรุก” โครเอเชีย ถือว่าทำผลงานได้ดีในการแข่งขันฟุตบอลนัดนี้ โดยเฉพาะผลงานที่ถล่มอาร์เจนตินามาได้ 3-0 แบบขาดลอย แต่ 2 นัดหลังก็ดูเหนื่อยไม่น้อยเพราะไม่ได้ชนะขาด และผ่านมาได้ด้วยการชนะจุดโทษ ในประวัติศาสตร์เคยเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเพียงครั้งเดียวในปี 1998 และคว้าที่ 3 มาได้ในปีนั้น และเมื่อต้องมาเจอกับทัพอังกฤษก็ดูจะเป็นอีกศึกที่หนักหนาไม่น้อย ต้องฝากความหวังไว้ที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู ดานิเยล ซูบาซิช ที่ต้องทำมือให้เหนียวเข้าไว้ บวกกับแก๊งกองกลาง ลูก้า โมดริช, อิวาน ราคิติช และมาร์เซโล่ โบรโซวิช ที่ต้องประสานงานกับหน้าเป้า มาริโอ มานด์ซูคิช ให้ดี จึงจะพอมีลุ้นเข้าสู่รอบชิงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้บ้าง

คอนเทนต์สำหรับคุณ By Blue Dot

เนื้อหาคัดสรรคุณภาพ

อีกด้านกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ที่กำลังฮึกเหิมอย่างยิ่ง เพราะเข้ามาในรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่เคยเข้ามา 2 ครั้งในปี 1990 ซึ่งได้ที่ 4 และปี 1966 ซึ่งคว้าแชมป์มาได้ และแน่นอนว่าในการแข่งขันนัดนี้ทีมชาติอังกฤษจะต้องเอาจริงเอาจังอย่างมากเพื่อพาทีมเข้าสู่รอบชิงให้ได้ในรอบ 52 ปี รอบนี้ความหวังยังคงอยู่ที่หัวหอกคู่ แฮร์รี่ เคน กัปตันทีม กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เช่นเคย โดยเฉพาะ เคน ที่ตอนนี้มีลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวมากที่สุด ยิ่งต้องยิงให้หนักเข้าไว้และสร้างลบล้างคำดูถูกให้ได้ด้วยการพาอังกฤษไปสู่รอบชิง

จากสถิติการพบกันที่ผ่านมาอังกฤษ ชนะ 4 โครเอเชียชนะ 2 และเสมอกัน 1 ทำให้กระแสแรงเชียร์ดูจะเทไปทางทัพสิงโตซะมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้น สถิติการพบกับฝรั่งเศสในฟุตบอลโลกของทั้งสองทีมยังแตกต่างกันพอสมควร

โดยในปี 1966 อังกฤษ ชนะ ฝรั่งเศส 2-0 และในปี 1982 อังกฤษ ชนะ ฝรั่งเศส 3-1 ในขณะที่ โครเอเชีย แพ้ ฝรั่งเศส 1-2 ในปี 1998 ทำให้เชื่อได้ว่านัดนี้ชัยชนะอาจตกเป็นของอังกฤษ และหากอังกฤษได้เข้าไปเจอฝรั่งเศส แมตช์หยุดโลกจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน