แมนฯยูไนเต็ด ต้องต่อสู้ ขับเคี่ยวแย่งชิงเพื่อท็อปโฟร์ โดยเวลานี้ รั้งอันดับ 6 เหลือโปรแกรมอีก 6 นัด ต้องเบียดกับ เชลซี, สเปอร์ส และอาร์เซน่อล ซึ่งทั้งหมดในนี้จะมี 2 ทีมต้องอกหัก โดยนักเตะของ แมนฯยูไนเต็ด ทราบดีอยู่แล้วว่าจะถูกตัดค่าเหนื่อย 25 เปอร์เซนต์หากไม่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งไม่ใช่นำมาใช้ปีนี้เป็นปีแรก แต่ถือเป็นธรรมเนียมของถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มานาน
โดยไม่ใช่แค่นั้น แมนฯยู ยังได้ทำสัญญากับผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์กีฬายักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างอาดิดาสที่จะหักเงิน 30 เปอร์เซนต์ ที่ต้องจ่ายทุก ๆ ปีหากวืดโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สองปีติดต่อกัน และอาจจะกระทบกับอนาคต 2 นักเตะหากไม่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คือ ป๊อกบา ที่อาจถูกเรอัล มาดริด ดึงไปร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ รวมถึง เด เคอา ที่อาจจะไม่ต่อสัญญาใหม่
ทั้งนี้ส่วนอนาคตของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงวัย 21 ปี สโมสรอาจไม่ต้องกังวล แม้แรชฟอร์ดจะเหลือสัญญากับแมนฯยูไนเต็ด เพียงฤดูกาลเดียว แต่สโมสรได้ส่งสัญญาให้เอเยนต์เข้าเจรจากับต้นสังกัดเกี่ยวกับดีลใหม่ โดยทาง แรชฟอร์ด ยินดีอยู่กับทีมต่อไป แต่มีเงื่อนไขคือต้องได้รับค่าจ้างระดับเดียวกับที่ เวย์น รูนี่ย์ อดีตดาวยิงรุ่นพี่ ปีละ 15.6 ล้าน ปอนด์ได้รับ
อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายบริหารอนุมัติ ก็พร้อมจรดปากกาเซ็นสัญญญายาว 5 ปี จนถึงปี 2024 การเจรจาสัญญาของแรชฟอร์ดหากสำเร็จจริงตามรายงานของสื่อในอังกฤษ จะทำให้ค่าเหนื่อยพุ่งจากเดิม 3 เท่าตัว จากเดิมรับ 80,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ทะลุเป็น 300,000 ปอนด์ รวมมูลค่าตลอดสัญญามากถึง 78 ล้านปอนด์
รูปภาพ : Oli SCARFF / AFP