เอเอฟซี ลงตรวจสนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นสนามสุดท้ายที่จะใช้จัดฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชียที่ไทยในต้นปีหน้า พร้อมกับได้บทสรุปใช้สนามบุรีรัมย์แทนสนามสมโภช 700 ปี ที่ปรับปรุงเสร็จไม่ทัน

เมื่อวันที่ (24 ก.ย.62) รองผู้อำนวยการฝ่ายจัดกิจกรรมและการแข่งขันของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี (AFC) นำคณะเข้าตรวจความพร้อมของสนามราชมังคลากีฬาสถานตั้งแต่ช่วงเช้า โดยภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจ นายวัชระ แก้วนิคม หัวหน้างานกองซ่อมบำรุงอาคาร กองซ่อมบำรุงการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวกีฬาพีพีทีวี ว่า ตอนนี้ กกท.ได้ผู้รับจ้างที่จะมาปรับปรุงราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบที่ทาง เอเอฟซี ต้องการ ส่วนแผนงานที่คือต้องเร่งดำเนินการหลังจากลงนามสัญญาจ้าง ซึ่งอยู่ในการดำเนินการในการลงนามเรื่องสัญญา ซึ่งจะเริ่มงานทันที และคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนมอบสนามภายในวันที่ 15 ธันวาคม
มธ.รังสิต ยันสนามเสร็จทันเดดไลน์ “เอเอฟซี” 15 ธ.ค.
“เอเอฟซี” พอใจหลังตรวจสนามติณสูลานนท์
ขณะที่ช่วงเย็นหลังจากตรวจสนามเสร็จ ตัวแทนเอเอฟซี ได้ร่วมประชุมกับตัวแทนจาก 4 สนาม เพื่อสรุปภาพรวมในการตรวจสนามครั้งนี้ โดย ยู จิน โฮ หัวหน้าฝ่ายเอเชียนคัพ ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมาตรวจสนามครั้งนี้ได้ประเมินความพร้อมของทุกสนามแล้ว และได้เลือกสนามช้างอารีน่า ของสโมสร บุรีรัมย์ เข้ามาเป็นสนามแข่งขันแทน สมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ ที่ปรับปรุงไม่แล้วเสร็จก่อนการแข่งขัน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเร่งปรับปรุงทุกส่วน เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่ เอเอฟซี กำหนดไว้ในการแข่งขัน
ติดตามอ่านข่าว ความเคลื่อนไหววงการลูกหนังอัพเดทก่อนใคร คลิก!
เช็กผังรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลเพิ่มเติม คลิก!