"โซลชาร์" เผยหลังทาบจ่าฝูง "เราพัฒนาขึ้นมาก"
แมนยู ยังสน แจ็ค กรีลิช แม้ราคา 100 ล้านปอนด์
ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ฟอร์มสะดุดอย่างต่อเนื่องหลังทำได้แค่เสมอกับทีมรองบ่อนทั้ง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน กับ นิวคาสเซิ่ล ใน 2 เกมล่าสุด ทำให้มีแต้มทิ้งห่าง แมนฯยูไนเต็ด รองจ่าฝูงเหลือแค่ 3 คะแนน แถมแข่งมากกว่า 1 นัดอีกด้วย
อีกทั้งเมื่อดูโปรแกรมในเดือน ม.ค. ก็มีโอกาสสูงที่ ลิเวอร์พูล อาจจะเสียตำแหน่งจ่าฝูงได้เช่นกัน เมื่อต้องลงเล่นในทุกถ้วยทุกรายการรวม 6 นัด และต้องเจอกับทีมแข็งแกร่งแทบทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่
ไปเยือน เซาแฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก) ในวันที่ 04/01/2021
เยือน แอสตัน วิลลา ทีมที่เคยชนะพวกเขา 7-2 (เอฟเอ คัพ)วันที่ 08/01/2021
ต่อด้วยทำศึกแดงเดือดกับ แมนฯยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)วันที่ 17/01/2021
เปิดบ้านพบกับ เบิร์นลีย์ (พรีเมียร์ลีก)วันที่ 22/01/2021
เปิดบ้านพบกับ ทอตแนม ฮอตสปอร์ (พรีเมียร์ลีก)วันที่ 28/01/2021
ปิดท้ายด้วยออกไปเยือน เวสต์แฮม (พรีเมียร์ลีก)ในวันที่ 31/01/2021
แต่ถึงอย่างไร เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของทีมก็ยังเชื่อมั่นใจตัวลูกทีม โดยออกมากระตุ้นให้ลูกทีมทำผลงานกันอย่างเต็มที่ และเล่นไปตามแท็กติก โดยส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่า ถ้าหาก ลิเวอร์พูล เล่นได้ตามแผนก็จะผ่านโปรแกรมหฤโหดนี้ไปได้ และจะกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนอนาคตของ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่จะหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล หลังจบฤดูกาลนี้ มีรายงานว่า นักเตะพร้อมที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร ถ้าหากได้ค่าเหนื่อยที่มากขึ้น และสมน้ำสมเนื้อเหมือนกับนักเตะฝีเท้าระดับเดียวกันของสโมสร
โดยปัจจุบัน ไวจ์นัลดุม ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ในนักเตะสำคัญของทีม ได้ค่าเหนื่อยเพียงสัปดาห์ละ 75,000 ปอนด์ หรือประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าบรรดานักเตะตัวสำรองในตำแหน่งเดียวกันอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ ที่รับถึง 140,000 ปอนด์, นาบี เกอิต้า กับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ที่รับอยู่ 120,000 ปอนด์ และ เชอร์ดาน ชากิรี่ ที่ได้อยู่ที่ 80,000 ปอนด์ด้วยซ้ำ ส่วนนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยเยอะสุดของ ลิเวอร์พูล ยังคงเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ที่รับอยู่ 200,000 ปอนด์ หรือประมาณ 8 ล้านบาทต่อสัปดาห์ ซึ่งนั้นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ ไวจ์นัลดุม พิจารณาที่จะไม่ต่อสัญญากับทีมออกไป