เชลซี คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยใบใหญ่ของยุโรป ด้วยการล้ม “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ เพื่อนร่วมลีกในรอบชิงชนะเลิศ 1-0 จากประตูชัยของ ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางทีมชาติเยอรมัน ทำให้คว้าแชมป์ไปครองได้เป็นสมัยที่ 2 ของสโมสร หลังเคยทำได้มาแล้ว 1 สมัย ในฤดูกาล 2011/2012 รวมถึงเป็นแชมป์แรกของ โธมัส ทูเคิ่ล ในฐานะกุนซือเชลซีด้วย
นอกจากนี้แชมป์ดังกล่าวยังทำให้นักเตะเชลซีได้รับโบนัสก้อนโตอีก 10 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,430 ล้านบาท
เปิดสถิติ "ก็องเต้" มิดฟิลด์เชลซี ผู้ปิดทองหลังพระ
แฟนหงส์กังวลสถิติ “โคนาเต้” กองหลังตัวใหม่ลิเวอร์พูลเจ็บบ่อย
จากการอัดฉีดของสโมสร แบ่งเป็นเข้าชิงชนะเลิศ 5 ล้านปอนด์ และการคว้าแชมป์อีก 5 ล้านปอนด์ ส่วนนักเตะแมนฯซิตี้ ต้องพลาดการคว้าเงินอัดฉีดถึง 15 ล้านปอนด์จากสโมสรหลังพลาดคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกของพวกเขา
ส่วนทางด้าน โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเชลซี ยังร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการเป็นกุนซือจากชาติเดียวกันที่คุมสโมสรต่างกันคว้าแชมป์ไปครองได้ 3 ฤดูกาลติดต่อกันเป็นครั้งแรก หลัง เจอร์เกน คล็อปป์ และ ฮันซี่ ฟลิค 2 กุนซือชาวเยอรมัน นำ ลิเวอร์พูล กับ บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์แชมป์ไปครองได้ใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามถ้าหากนับรวมตั้งแต่ที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยังไม่เปลี่ยนชื่อและยังใช้ชื่อฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ อยู่ เคยมีกุนซือจากอังกฤษ สร้างสถิติดังกล่าวได้เช่นกัน เริ่มจาก ไบรอัน คลัฟ ที่คุมน็อตติงแฮม ฟอร์เรส เป็นแชมป์เมื่อปี 1980 ต่อด้วย บ็อบ เพสลี่ย์ นำลิเวอร์พูล ได้แชมป์ปี 1981 และ โทนี่ บาร์ตัน นำ แอสตัน วิลล่า ได้แชมป์ในปี 1982