ปรีวิว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เสาร์ที่ 25 กันยายน 2564
(1) เชลซี-แมนฯ ซิตี้ (5)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ เวลาคิกออฟ : 18.30 น.
ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์
ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
30 พ.ค.2564 แมนฯ ซิตี้ 0-1 เชลซี นัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
8 พ.ค.2564 แมนฯ ซิตี้ 1-2 เชลซี พรีเมียร์ลีก
17 เม.ย.2564 เชลซี 1-0 แมนฯ ซิตี้ เอฟเอ คัพ
3 ม.ค.2564 เชลซี 1-3 แมนฯ ซิตี้ พรีเมียร์ลีก
ผลบอลวันนี้ ! พรีเมียร์ลีก "เชลซี" พบ "แมนฯซิตี้"
วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก "แมนฯ ซิตี้" พบ "เชลซี" 8 พ.ค. 64
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
25 ก.ย. 2564 เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 (เหย้า,ชนะจุดโทษ 4-3) คาราบาว คัพ
19 ก.ย. 2564 ชนะ สเปอร์ส 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
14 ก.ย. 2564 ชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 1-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
11 ก.ย. 2564 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 (เหย้า)พรีเมียร์ลีก
28 ส.ค.2564 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมเชลซี
โทมัส ทูเคิ่ล ที่พาทีมยังไม่แพ้ในลีกฤดูกาลนี้ (ชนะ 4 เสมอ 1) เกมนี้จะได้ เอดูอาร์ เมนดี้ กลับมาเฝ้าเสา หลังหายจากการช่วยทีมไป 2 นัดเนื่องจากอาการเจ็บ แนวรุกยังไม่มี คริสเตียน พูลิซิซ ที่ยังต้องต่อสู้กับปัญหาที่ข้อเท้า แดนกลาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น่าจะได้ออกสตาร์ตแทนที่ มัตเตโอ โควาซิช ขณะที่เกมบุก เมสัน เม้าน์ท เจออาการเจ็บ ทำให้ ติโม แวร์เนอร์ จะเล่นกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ เพื่อคอยสนับสนุน โรเมลู ลูกากู หน้าเป้าเช่นเดิม
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้; อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้,จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่; ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ตซ์; โรเมลู ลูกากู
แมนฯ ซิตี้
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
21 ก.ย.2564 ชนะ วีคอมบ์ 6-1 (เหย้า) คาราบาว คัพ
18 ก.ย.2564 เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
15 ก.ย.2564 ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 6-3 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
11 ก.ย.2564 ชนะ เลสเตอร์ 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
28 ส.ค.2564 ชนะ อาร์เซนอล 5-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมแมนฯ ซิตี้
เป๊ป กวาดิโอล่า กุนซือของทีมแชมป์เก่า จะไม่มี 2 เซ็นเตอร์อย่าง จอห์น สโตนส์ กับ เอมเมอริค ลาปอร์กต์ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ รูเบน ดิอาส จะจับคู่กับ นาธาน อาเก้ เหมือนเดิม ในรายของ โรดรี้,โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้,อิลคาย กุนโดกัน หวังผ่านความฟิตมีชื่อสตาร์ตเกมนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ฟิล โฟเด้น ลุ้นได้ลงยืนเชื่อมเกมตรงกลางเช่นกัน กาเบรียล เชซุส น่าจะได้ลงเล่นก่อน ริยาด มาห์เรซ โดยจะเป็น 3 ประสานกับ แจ็ค กรีลิช และ แฟร์ราน ตอร์เรส
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส; ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, ชูเอา กานเซโล่; เควิน เดอ บรอยน์, แฟร์นานดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน; กาเบรียล เชซุส, แฟร์ราน ตอร์เรส, แจ็ค กรีลิช
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
-พบกันในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 48 นัด เชลซี ชนะ 27 แมนฯ ซิตี้ ชนะ 14 เสมอกัน 7 นัด
-เชลซี จะกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ จะชนะแมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาดิโอล่า 4 นัด ติดต่อกันทุกรายการ
-เชลซี ภายใต้การทำทีมของ โทมัส ทูเคิ่ล เก็บได้ 15 คลีนชีท ใน 24 เกมหลัง ซีงเป็นผลงานที่ดีที่สุด นับตั้งแต่กุนซือชาวเยอรมัน เคยคุมทีมมา
-หาก เป๊ป กวาดิโอล่า พาทีมไม่ชนะเกมนี้ จะการไม่ชนะเชลซี ฝั่งตรงข้าม 4 เกมติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในอาชีพ
-ในการคุมทีมตลอดอาชีพที่พบกับ เชลซี เป๊ป กวาดิโอล่า แพ้ไปถึง 8 ครั้ง ซึ่งถือว่ามากที่สุดกว่าการเจอทีมอื่นโดยใน 8 ครั้งนั้นเป็นการแพ้ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึง 4 ครั้ง
-การพบกัน 12 ครั้งหลังในพรีเมียร์ลีกระหว่างเชลซี กับ แมนฯ ซิตี้ เป็น “สิงห์บูลล์” ชนะ 5 ซิตี้ ชนะ 7 นัด โดยไม่มีการจบด้วยผลเสมอ
-โรเมลู ลูกากู ทำ 5 ประตูใน 16 เกมลีก และบอลถ้วย ในเกมพบกับ แมนฯ ซิตี้ แต่กลับไม่สามารถทำประตูได้ใน 4 เกมล่าสุด กับ ซิตี้ สมัยสวมเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด
-เควิน เดอ บรอยน์ ของ แมนฯ ซิตี้ ทำประตูได้จากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 3 นัดล่าสุดกับเชลซี ทีมเก่า โดยมีเพียง เคร็ก เบลลามี่ เท่านั้น ที่ทำได้มากกว่า คือ 4 นัดติดต่อกันในการเจอกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (ระหว่างปี 2007-2011)