“เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ” อีกหนึ่งกุญแจสำคัญพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์โลก

เผยแพร่ 19 ธ.ค. 2565, 12:47น.

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (เอมี่) กลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของอาร์เจนติน่าชุดคว้าแชมป์โคปาอเมริกา 2021 และแชมป์โลก 2022 แต่กว่าที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้ เขาจะต้องผ่านความยากลำบากมามากมายจนไม่น่าเชื่อว่าอดีตผู้รักษาประตูมือ 3 ของอาร์เซน่อล จะกลายมาเป็นมือ 1 ของอาร์เจนตินาชุดตำนาน

"เอมี่" ถูกอาร์เซน่อลดึงตัวมาจากสโมสรอินดีพีเดียนเต้ ในอาร์เจนติน่าตั้งแต่เป็นนักเตะดาวรุ่ง และแทบไม่เคยได้โอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เลย อาจจะมีลงเล่นในเกม คาร์ลิ่ง คัพ ในยุคของเวนเกอร์ที่ชอบให้โอกาสดาวรุ่งบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้เป็นมือ 1 หรือแม้กระทั่งมือ 2 ด้วยซ้ำ และสุดท้ายก็มักจะจบลงด้วยการถูกปล่อยยืมตัว

เขาถูกปล่อยยืมออกไปมากกว่า 6 ทีม ใน 8 ฤดูกาลที่อยู่กับอาร์เซน่อลเป็นเวลาเกือบ 10 ปี

ฟุตบอลโลก 2022 สร้างสถิติทำประตูมากสุดตลอดกาล

บทสรุปรางวัลยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก 2022

แต่เขาไม่เคยยอมแพ้ มาร์ติเนซ อดทนรอโอกาสที่จะได้พิสูจน์ตัวเองเสมอ เขารู้ดีว่าผู้รักษาประตูนั้นมีเพียง 1 คนเท่านั้นที่จะได้เป็นตัวจริง เขารอเวลาและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาส เหมือนที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่า "หากคุณทำงานหนัก คุณจะได้รับรางวัลตอบแทน"

และแล้วเวลานั้นก็มาถึง เมื่อมือ 1 อย่าง แบรนด์ เลโน่ ได้รับบาดเจ็บในเกมกับไบร์ทตันเมื่อฤดูกาล 2019-20 มาร์ติเนซที่นั่งข้างสนามเพื่อรอจังหวะนี้มาโดยตลอด ก็ได้รับโอกาสที่ล้ำค่า และเขาก็คว้ามันไว้อย่างแน่นไม่หลุดมือ

กราฟชีวิตของมาร์ติเนซพุ่งขึ้นสุดขีด เขากลายมาเป็นมือ 1 ของไอปืนใหญ่ พาทีมไปไกลถึงการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ แต่ด้วยการที่อาร์เตต้าการันตีมือ 1 ให้ไม่ได้ ฤดูกาลถัดมาเขาก็ตัดสินใจที่จะออกไปตามเส้นทางของตัวเอง โดยเลือกย้ายไปเล่นให้กับแอสตัน วิลล่า

และในทีมชาติ เขาก็กลายมาเป็นมือ 1 ของทีมฟ้าขาว จุดแจ้งเกิดของเขาคือทัวร์นาเมนท์โคปา อเมริกา 2021 เมื่อเขาเซฟ 3 จุดโทษในการดวลกับโคลอมเบีย ส่งให้ทีมเข้าไปเล่นนัดชิงและกลายเป็นแชมป์ในที่สุด โดยเมสซี่เคยยกย่องเขาเอาไว้หลังจบเกมรอบรองว่า "นี่เป็นเกมที่ลำบากของเรา แต่เรามีเอมี่ เขามหัศจรรย์ เขาทำให้เราเข้าสู่รอบชิง" และท้ายที่สุดเมสซี่ก็คว้าแชมป์ในนามทีมชาติเป็นครั้งแรกสมใจอยาก

หลังจากนั้นการเซฟจุดโทษของเอมี่ก็กลายเป็นเหมือนจุดแข็งของเขา ในบอลโลก 2022 ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาเซฟ 2 จุดโทษ ช่วยให้อาร์เจนติน่าชนะฮอลแลนด์ไปได้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย จนเมสซี่ต้องวิ่งมากอดเขาเป็นคนแรกหลังจบเกม

ในเกมนัดชิงชนะเลิศ เขาก็โชว์ฟรอ์มสุดโหดเซฟสำคัญในช่วงนาทีสุดท้ายของเกมจากลูกหลุดเดี่ยวของมวนนี่ และไปโชว์ฟอร์มในการดวลจุดโทษด้วยการเซฟลูกยิงของ คิงสลีย์ โกม็อง ช่วยให้ทีมดวลจุดโทษชนะและกลายเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ แถมด้วยรางวัลส่วนตัวอย่างโกลเด้น โกล์ฟ อวอร์ด เป็นเครื่องการันตีความเหนียวแน่นหนึบ

แม้เขาจะผ่านอะไรมามากมาย แต่ด้วยวัย 30 ปีของผู้รักษาประตูยังสามารถก้าวไปอีกขั้นได้ในระดับสโมสร เราต้องมาดูกันว่าหลังจบฤดูกาลนี้เอมี่จะได้ย้ายไปทีมที่ใหญ่ขึ้น เพื่อลุ้นแชมป์ในระดับสโมสรบ้างหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาคงอยากดื่มด่ำกับแชมป์โลกครั้งนี้ให้นานที่สุด เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็คงไม่คิดว่าจะมาไกลถึงจุดนี้