ปรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเปิดฤดูกาล 2023-2024
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2566
เชลซี-ลิเวอร์พูล
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ (ลอนดอน/อังกฤษ) เวลาคิกออฟ : 22.30 น.
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสิน VAR : ดาร์เรน อิงแลนด์
ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
4 เม.ย.2566 เชลซี 0 - 0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
21 ม.ค.2566 ลิเวอร์พูล 0 - 0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
วิเคราะห์บอล!! พรีเมียร์ลีก เชลซี พบ ลิเวอร์พูล 4 เม.ย. 66
พีพีทีวี ยิงสด! ไทยลีก ฤดูกาลใหม่ 2023/24
เชลซี
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
2 ส.ค.2566 เสมอ ดอร์ทมุนด์ 1-1 (กลาง) ทัวร์สหรัฐ
30 ก.ค.2566 ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (กลาง) ทัวร์สหรัฐ
26 ก.ค.2566 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (กลาง) ทัวร์สหรัฐ
22 ก.ค.2566 ชนะ ไบรท์ตัน 4-2 (กลาง) ทัวร์สหรัฐ
19 ก.ค.2566 ชนะ เร็กซ์แฮม 5-0 (กลาง) ทัวร์สหรัฐ
สภาพทีมเชลซี
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนใหม่ เชลซี พาทีมทัวร์สหรัฐอเมริกา แบบไร้พ่าย 5 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 โดยเกมล่าสุดเสมอ ดอร์ทมุนด์ 1-1 โดยเกมนี้จะไม่มี คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู แนวรุกตัวใหม่ ที่ได้มาจากไลป์ซิก หลังจากเจ็บในเกมปรีซีซั่นต้องพักยาว เช่นเดียวกับ เวสลีย์ โฟฟาน่า อีกหนึ่งแข้งใหม่ยังเดี้ยงเช่นกัน ทำให้เกมรุก คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า จะได้ลงเป็น 3 ประสานร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง และ มิไคโล่ มูดริค อยู่หลัง นิโกล่าส์ แจ็คสัน ดาวเตะทีมชาติเซเนกัล ที่ดึงมาจาก บียาร์เรอัล รับบทกองหน้าตัวเป้า ส่วนตัวตัดเกมใช้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ กับ คอนอร์ กัลลาเกอร์ เกมรับ ลีวาย โคลวิลล์ ดาวรุ่งของทีมจะยืนคู่กับ ติอาโก้ ซิลวา และมี รีซ เจมส์ สวมปลอกแขนกัปตันทีม ส่วน มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางดาวรุ่ง ที่กำลังต้องการย้ายจากไบรท์ตัน น่าจะเดินเรื่องไม่ทันลงเล่นเกมนี้
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, ลีไว โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์ - เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, คอนอร์ กัลลาเกอร์ - ราฮีม สเตอร์ลิง, คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า, มิไคโล่ มูดริค - นิโกล่าส์ แจ็คสัน
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
7 ส.ค.2566 ชนะ ดาร์มสตัด 3-1 (เหย้า) อุ่นเครื่อง
7 ส.ค.2566 แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 3-4 (กลาง) ทัวร์เอเชีย
30 ก.ค.2566 ชนะ เลสเตอร์ 4-0 (กลาง) ทัวร์เอเชีย
24 ก.ค.2566 เสมอ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 4-4 (เยือน) อุ่นเครื่อง
19 ก.ค.2566 ชนะ คาร์ลสรูห์ 4-2 (เยือน) อุ่นเครื่อง
สภาพทีมลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ เสียกองกลางอย่าง ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปเล่นในลีกซาอุ แต่ก็ได้ โดมินิก โซบอสไล กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้ามาเป็นแข้งใหม่แทยในช่วงซัมเมอร์ และทั้งคู่จะได้สตาร์ตเหมือนในช่วงเกมปรีซีซั่นที่ผ่านมา โดยเมื่อจังหวะขึ้นเกม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะปรับมาเป็นกองกลาง จากระบบ 4-3-3 มาเป็น 3-4-3 โดยมี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีมคนใหม่ยืนเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับ ส่วนแนวรุกใช้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่ยิงได้ 2 ประตู 7 แอสซิสต์ 7 จาก 5 เกมปรีซีซั่น จะประสานงานกัล ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ ในรายของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ สเตฟาน บายเซติช ยังคงอยู่ระหว่างฟื้นฟูสภาพความฟิตต่อไป
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - โดมินิก โซบอสไล, เคอร์ติส โจนส์, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ
ความน่าจะเป็นของเกม
ทั้งเชลซีและลิเวอร์พูล แนวรุกถือว่าไม่ทำงานใน 1-2 ฤดูกาลที่ผ่านมา และเกมนี้ถือเป็นนัดเปิดหัวของฤดูกาลทั้ง 2 ทีมคงเล่นอย่างระมัดระวังและรัดกุม ทำให้โอกาสเป็นไปได้ทั้ง 3 หน้าชนิดที่มีเปอร์เซนต์เสมอมากที่สุด
สกอร์ที่คาด
เสมอ 1-1
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
- พบกันมาแล้ว 79 ครั้งในพรีเมียร์ลีก เชลซีชนะ 27 ครั้ง ลิเวอร์พูลชนะ 28 ครั้ง เสมอ 24 ครั้ง
-พบกันในลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา 2 เกมจบลงด้วยผลเสมอแบบไม่มีสกอร์ทั้ง 2 นัด
- การพบกัน 4 นัดหลังสุดของทั้งสองทีมในทุกรายการ (จบ 90 นาที) ผลคือเสมอกันทุกนัด (พรีเมียร์ลีก 2 นัด เอฟเอ คัพ 1 นัด และคาราบาว คัพ 1 นัด) และในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษยังไม่มีการดวลกัน 5 ครั้งที่จะเสมอติดต่อกันทั้งหมด
-นี่จะเป็นเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่คุมทีมเชลซี กุนซือชาวอาร์เจนไตน์เก็บชัยชนะได้ 5 เกมจาก 7 เกมนัดเปิดฤดูกาลก่อนหน้านี้ โดยความพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียวคือเกมเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2015-2016
-ลิเวอร์พูลไม่แพ้ใครในเกมพรีเมียร์ลีก 11 นัดที่ผ่านมา (ชนะ 7 เสมอ 4) ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในปัจจุบันโดยไม่แพ้ทีมใดเลยในรายการนี้
-ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ใครในเกมลีกนัดเปิดฤดูกาล นับตั้งแต่แพ้เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-0 ในฤดูกาล 2012-2013 ภายใต้การคุมทีมของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส
- โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ หัวหอกของลิเวอร์พูล เป็นอดีตนักเตะเชลซีคนล่าสุดที่สามารถยิงประตูใส่ทีมเก่าได้ โดยทำประตูได้ในเดือนมกราคม 2022
- ลิเวอร์พูล มีโอกาสไม่แพ้ 5 เกมติดต่อกัน ในการไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์