จากกรณี มิเกล โรดริโก หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตซอลทีมชาติไทย โพสต์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวแบบสุดเดือดหลังเจ้าตัวเดินทางไปชมเกมคู่ระหว่าง ฝรั่งเศส พบกับ อิหร่าน จวกเล่นได้น่าอับอาย
เกมดังกล่าวถูกวิจารณ์ในเรื่องของการเล่นทั้งของ ฝรั่งเศส และ อิหร่าน ต่างฝ่ายต่างเล่นแบบเก้ๆกังๆ เหมือนไม่อยากเป็นผู้ชนะ แม้จะจบลงด้วย อิหร่าน เบอร์ 1 เอเชีย เอาชนะไปได้ 4-1 โดยผู้ชนะจะเป็นแชมป์กลุ่มเอฟ เข้ารอบต่อไปเจอ โมร็อกโก และ บราซิล ตามลำดับ ส่วนทีมแพ้จะได้รองแชมป์ เข้ามาพบ ทีมไทย
โดยกุนซือทีมชาติไทย ระบุข้อความว่า "ผมขอพูดตรงนี้เลยว่า ฝรั่งเศส เรากำลังรอพวกคุณอยู่
"ถึงตัวแทนจากสหพันธ์ของอิหร่านและฝรั่งเศสอยู่ต่อหน้าผมตรงบริเวณที่นั่งและนักกีฬาของทั้งสองขาติที่อยู่ในสนามพวกคุณกำลังทำลายกีฬาของผม พวกคุณโคตรน่าละอาย"
"พวกคุณไม่ควรเหยียบสนามฟุตซอลอีกตลอดชีวิต คุณเป็นตัวแทนที่ตรงข้ามกับคำว่า 'แฟร์เพลย์' รวมถึงการเป็นนักกีฬาที่ยอดเยี่ยม"
"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันที่ 27 กันยายนนี้ และเราก็ยอมรับว่าเราคือทีมที่อาจจะดูอ่อนที่สุดสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่บูคารา"
ก่อนที่สหพันธ์ฟุตบอลอิหร่าน จะตอบโต้เตรียมฟ้องสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า และสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี กรณีดูหมิ่นและเรียกร้องให้เอาผิด
เช็กรัฐจ่าย 10,000 บาท โอนเงินเข้าบัญชี ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-ผู้พิการ
น้ำปิงเพิ่มสูงระดับสีเหลือง เตือน! ชาวเมืองเชียงใหม่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง
ทำความรู้จักฟุตซอลทีมชาติฝรั่งเศส คู่ต่อกรไทย รอบ 16 ทีมฟุตซอลโลก 2024
ล่าสุด มิเกล โรดริโก ได้โพสต์ผ่านอินสตาแกรมพร้อมข้อความว่า "พวกเขาบอกผมว่า "คนโกหก" ดังนั้นนี่คือภาพ 2-3 วินาทีจากเกม มันน่าละอาย อิหร่าน และ ฝรั่งเศส คุณต้องการตัวอย่างเพิ่มเติมไหม ? ผมมีมากมายในคอมพิวเตอร์ของผม คุณได้รายงานไปยัง FIFA และ AFC เกี่ยวกับโพสต์เมื่อวานนี้ แต่พูดตามตรง ผมไม่สนใจเลย พวกคุณทำให้อาชีพของผมต้องอับอาย‼️"
"ทั้งสองทีมพยายามทำเข้าประตูตัวเองด้วยการจ่ายบอลกลับให้ผู้รักษาประตู แต่สถานการณ์กลับกลายเป็นหลักฐานและน่าเขินอายต่อหน้าฝูงชนและทีวีสาธารณะของฝรั่งเศสและอิหร่าน ที่พวกเขาตัดสินใจด้วยลูกโทษ 2 จังหวะบนเส้นเขตโทษ จากนั้นมันก็ตลกมากเพราะไม่มีใครพยายามทำประตู
แล้วผมเป็นคนโกหกหรือเปล่า ??? คุณทำประตูได้หนึ่งลูกโดยไม่ได้ตั้งใจเพราะผู้รักษาประตูฝรั่งเศสโกงคุณ แล้วคุณก็ถูกบังคับให้เล่นเกือบปกติ มันไม่ใช่เหรอ? ผมพูดผิดตรงไหน ?