บรรดา 20 สโมสรพรีเมียร์ลีกใช้เงินเกิน 2 พันล้านปอนด์ในช่วงซื้อขายนักเตะ 2 ช่วง (ซัมเมอร์-ปีใหม่ ) ไบรท์ตัน กลายเป็นทีมที่ทุ่มเงินเพื่อสนับสนุนการทำทีมของ ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ กุนซือคนใหม่ โดยใช้เงินมากถึง 231.4 ล้านปอนด์ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนซึ่งมีการดึงนักเตะใหม่เข้ามา อาทิ จอร์จินิโอ รัตเตอร์, ยานคูบา มินเตห์ และ แมตต์ โอเรลลีย์ และสเตฟานอส ซิมาส กองหน้าดาวรุ่งชาวกรีกด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ เข้ามาในช่วงตลาดหน้าหนาว
หากไม่มี VAR ลิเวอร์พูล จะไม่ได้เป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก
ทำไม แมนยู ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญากองหน้าในวันปิดตลาดเดือนมกราคม
ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ในอันดับ 2 โดยทุ่มเงินถึง 202.1 ล้านปอนด์ จากการซื้อแข้งเข้ามาอาทิ โจชัว เซิร์กซี, มานูเอล อูการ์เต้ และมัทไธส์ เดอ ลิกต์ ตามมาด้วยทีมเพื่อนร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในอันดับ 3 ที่ 200.8 ล้านปอนด์
ด้านเชลซี แม้จะมีการเคลื่อนไหวของนักเตะมากที่สุดโดยมีนักเตะย้ายเข้า 35 คน และย้ายออก 31 คน แต่มีตัวเลขอยู่อันดับ 4 ตัวเลขอยู่ที่ 196.7 ล้านปอนด์ และ แอสตัน วิลล่า รั้งอันดับ 5 ที่ 136.6 ล้านปอนด์
ขณะที่ ลิเวอร์พูล ที่รั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก ในเวลานี้ กลายเป็นทีมที่จ่ายน้อยที่สุด เพียง 34.7 ล้านปอนด์ กับการเซ็นผู้เล่นเข้ามาเพียง 2 ราย ได้แก่ เฟเดริโก้ เคียซ่า และ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่
สโมสรที่ใช้จ่ายสูงสุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024-25 (รวม 2 ตลาด)
1. ไบรท์ตัน 231.4 ล้านปอนด์
2. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 202.1 ล้านปอนด์
3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 200.8 ล้านปอนด์
4. เชลซี 196.7 ล้านปอนด์
5. แอสตัน วิลล่า 136.6 ล้านปอนด์
6. สเปอร์ส 136.6 ล้านปอนด์
7. อิปสวิช ทาวน์ 126.4 ล้านปอนด์
8. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 119.3 ล้านปอนด์
9. บอร์นมัธ 104.1 ล้านปอนด์
10. เซาธ์แฮมป์ตัน 100.9 ล้านปอนด์
11. อาร์เซน่อล 90.1 ล้านปอนด์
12. ฟอเรสต์ 86.8 ล้านปอนด์
13. เบรนท์ฟอร์ด 81 ล้านปอนด์
14. วูล์ฟแฮมป์ตัน 77.7 ล้านปอนด์
15. คริสตัล พาเลซ 76 ล้านปอนด์
16. ฟูแล่ม 75.6 ล้านปอนด์
17. เลสเตอร์ ซิตี้ 73.6 ล้านปอนด์
18. นิวคาสเซิ่ล 56.2 ล้านปอนด์
19. เอฟเวอร์ตัน 41.3 ล้านปอนด์
20. ลิเวอร์พูล 34.7 ล้านปอนด์