โดย Cold Palmer เป็นฉายาที่แฟนบอลพรีเมียร์ลีกคงคุ้นหูกันอย่างดี Cold แปลตรงตัวว่า เยือกเย็น แต่ในบริบทฟุตบอล มันหมายถึง “คมกริบ ไม่หวั่นไหว และนิ่งเกินวัย” ซึ่งมันเข้ากับบุคลิกของพาลเมอร์ทั้งในและนอกสนาม
พาลเมอร์ได้ยื่นเรื่องจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Cold Palmer” กับสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของรัฐบาลอังกฤษตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และได้รับอนุมัติเรียบร้อยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สิ่งที่น่าสนใจคือ รายการสินค้าที่พาลเมอร์ตั้งใจจะนำแบรนด์นี้ไปใช้มีจำนวนมาก ตั้งแต่สบู่ เกลืออาบน้ำ ขนม ของเล่น เครื่องโกนหนวด เคสโทรศัพท์ โดรน ไปจนถึงของขวัญคริสต์มาสและตุ๊กตาหมี
โดยการยื่นเรื่องทั้งหมดนี้ทำผ่านบริษัทส่วนตัวของเขาชื่อ “Palmer Management Limited” และถึงแม้จะเคยมีปัญหาการคัดค้านจาก “Chateau Palmer (ชาโต ปาลแมร์)” ผู้ผลิตไวน์รายใหญ่ในฝรั่งเศส แต่สุดท้ายพาลเมอร์ก็แก้ไขเอกสารโดยตัดหมวดไวน์ออก ทำให้การจดทะเบียนสามารถผ่านได้ฉลุย
เครื่องหมายการค้านี้จะมีอายุถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2034 และสามารถต่ออายุได้ทุก 10 ปี หากมีคำถามว่าทำไมพาลเมอร์ถึงเลือกจดทะเบียนการค้า?
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาอธิบายว่า การที่นักฟุตบอลจดทะเบียนชื่อเล่นหรือแบรนด์ของตัวเอง เป็นการ “ปกป้องอัตลักษณ์ทางการค้า” และ “สร้างรายได้ระยะยาว”
อย่าง เบน ทราเวอร์ส ทนายความจากบริษัท Foot Anstey LLP เผยว่า “นี่เป็นวิธีที่ช่วยให้นักฟุตบอลปกป้องชื่อเสียงและควบคุมแบรนด์ของตัวเองได้ทั้งในช่วงที่ยังเล่นอยู่และหลังเลิกเล่น เพราะมันเปิดทางให้ทำรายได้จากลิขสิทธิ์ต่างๆ เช่น เกม เสื้อผ้า หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา”
อีกด้านหนึ่ง คาเรน ลี ทนายจาก Edwin Coe เสริมว่า “เมื่อคุณมีเครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการ มันง่ายกว่ามากที่จะดำเนินคดีหรือเรียกร้องสิทธิ์หากมีคนอื่นนำชื่อคุณไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต”
ปัจจุบันพาลเมอร์เป็นนักกีฬาภายใต้สัญญาของ Nike และยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Beats by Dre รวมถึงเคยร่วมแคมเปญกับ Burberry และ boohooMAN อีกด้วย
การมีเครื่องหมายการค้าเป็นของตัวเองจะช่วยให้เขาจัดการดีลต่าง ๆ ได้ตรงจุดขึ้น และอาจต่อยอดไปสู่แบรนด์แฟชั่นหรือสินค้าส่วนตัวในอนาคตได้ด้วย
นอกจากลิขสิทธิ์ชื่อ Cold Palmer แล้ว พาลเมอร์ยังยื่นขอจดทะเบียน “ท่าดีใจ” ที่เป็นซิกเนเจอร์ของเขาด้วย (แต่ยังอยู่ในขั้นตอนพิจารณา) ซึ่งในคำขอระบุว่าท่านี้สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ เช่น บนเสื้อผ้า หรือเครื่องดื่ม แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำท่านี้ในสนามไม่ได้
เพราะพาลเมอร์เองก็บอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก มอร์แกน โรเจอร์ส เพื่อนเก่าสมัยอยู่แมนฯ ซิตี้ชุดเยาวชน
พาลเมอร์เคยบอกว่า “ท่านี้สื่อถึงความสุข ความทุ่มเท และความเยือกเย็นในการเล่น มันตลกดีที่มันเข้ากับชื่อผมพอดี ทุกคนรู้ว่ามันคือท่าของผม แม้อาจมีคนทำมาก่อน แต่ตอนนี้ทุกคนจำได้ว่ามันคือผม”
สัญญาของนักเตะพรีเมียร์ลีก มักไม่ได้ระบุเรื่อง “ทรัพย์สินทางปัญญา” ไว้อย่างละเอียด ดังนั้นหากเชลซีต้องการใช้ชื่อ “Cold Palmer” เพื่อโปรโมตหรือนำไปใช้ทางการตลาด ก็จำเป็นต้องขออนุญาตหรือทำสัญญาอนุญาตการใช้แบรนด์จากเจ้าตัว
รวมถึงบริษัทเกมอย่าง EA Sports ก็จะต้องเจรจาขอสิทธิ์หากต้องการใช้ชื่อหรือท่าดีใจนี้ในเกม ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของค่าลิขสิทธิ์หรือสัญญาแบบเหมาจ่ายก็ได้
อย่างไรก็ดีพาลเมอร์ไม่ใช่คนแรกที่จดทะเบียนชื่อตัวเองแบบนี้ ยังมีแข้งอีกหลายรายที่เคยทำ อาทิ เดวิด เบ็คแฮม จดชื่อและภาพลักษณ์ไว้กับสินค้าหลากหลายประเภท, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จดทะเบียน “CR7” และท่า “Siuuu”, แกเร็ธ เบล กับท่าดีใจ Eleven of Hearts และยังมีแข้งอีกหลายรายที่ทำการจดทะเบียนแบบนี้
ท้ายที่สุดแล้ว “Cold Palmer” เป็นมากกว่าฉายา มันคือการประกาศตัวตนของนักฟุตบอลรุ่นใหม่ ที่เข้าใจว่าเส้นทางอาชีพไม่ได้จบแค่ในสนาม พาลเมอร์อาจยังยิงได้อีกหลายประตู แอสซิสต์ได้อีกหลายลูก แต่การจดทะเบียนชื่อของตัวเองแบบนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่าเขาเข้าใจธุรกิจมากพอ ๆ กับเข้าใจฟุตบอลเลย…