ย้อนไปดูจำนวนทีมที่แข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ค่อยๆเพิ่มขึ้น เริ่มต้นเมื่อปี 1930 ฟุตบอลโลกที่อุรุกวัย มีแข่ง 13 ทีม และอีก 4 ปีถัดมาจึงเพิ่มเป็น 16 ทีม เล่นด้วยจำนวนนี้ไปจนถึงปี 1974 ที่เยอรมันตะวันตกเป็นเจ้าภาพ จากนั้นในปี 1982 และ 1986 เพิ่มเป็น 24 ทีม จนมาถึง ฟร้อง 1998 เพิ่มเป็น 32 ทีม และในปี 2026 หรือ อีก 9 ปีข้างหน้า เพิ่มเป็น 48 ทีม
รูปแบบ - รอบแรกแบ่ง 16 กลุ่ม กลุ่ม ละ 3 ทีม แข่งพบกันหมดในแต่ละกลุ่ม
จะเลือกทีมอันดับ 1-2 ของทุกกลุ่ม รวม 32 ทีม เข้ารอบสองเพื่อแข่งขันแบบแพ้คัดออกหรือ น็อคเอาท์ ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ รวมการแข่งขันทั้งหมด จากเดิม 64 แมตช์ เป็น 80 แมตช์ ใช้เวลาแข่งขัน 32 วันตามเดิม
ส่วน การเพิ่มโควต้า ของแต่ละโซน ยังไม่มีสรุปออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เดอะการ์เดี้ยน และ บีบีซี คำนวนจากสัดส่วนออกมาว่า โซนยุโรปจะเพิ่มเป็น 16 ทีม (เดิม 13ทีม), โซนแอฟริกา 9 ทีม (เดิม 5 ทีม), โซนเอเชีย 8.5 ทีม (เดิม 4.5 ทีม), โซนอเมริกาใต้ 6 ทีม (เดิม 4.5 ทีม), โซนอเมริกากลาง อเมริกาเหนือ และแคริบเบียน 6.5 ทีม (เดิม 3.5 ทีม), โซนโอเชียเนีย 1 ทีม (เดิม 0.5 ทีม) และ เจ้าภาพ 1 ทีม ตามเดิม
เรื่องนี้ นายจิอานนี่ อินฟาติโน่ ประธานฟีฟ่า เจ้าของนโยบายนี้ บอกว่า อีกไม่นานทุกคนจะได้เห็นผลของการเพิ่มทีม เพราะทีมอื่น หรือ ทีมเล็ก จะมีโอกาสมากขึ้น ไม่ใช่แค่เยอรมนี หรือประเทศใหญ่ๆ เหมือนอย่างที่ผ่านมา
ขณะที่ฝ่ายออกโรงค้านมตินี้ ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า การเพิ่มทีมมีแต่ฟีฟ่าจะได้รับเม็ดเงินมากขึ้น 5,290 ล้านปอนด์ ราว 228,000 ล้านบาท และได้กำไรถึง 521 ล้านปอนด์ 22,000 ล้านบาท ส่วนทีมสโมสรก็ต้องส่งนักเตะไปเพิ่มโดยไม่ได้รับประโยชน์ใด