นักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ฉลองหลังเกมกันคึกคัก อ็องตวน กรีซมันน์ พาเพื่อนร่วมทีมบุกห้องแถลงข่าว เพื่อฉลองกับ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องป์ส นักเตะร้องเพลงเป็นชื่อของเดส์ช็องป์ส ฉลอง ก่อนจะย้ายกันไปฉลองในห้องแต่งตัว ซึ่ง เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เข้าไปฉลองกับนักเตะด้วย ด้าน ป็อกบา กับเมนดี้ ที่ไลฟ์สดอยู่ ก็เลยถือโอกาสชวนมาครง มาทำท่าแด็ปฉลองด้วยกัน
ขณะที่แฟนบอลฝรั่งเศส นับล้านคนที่ออกมารวมตัวฉลองกลางกรุงปารีส ต้องเจอกับเหตุความรุนแรง หลังมีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งที่ฉลองอยู่ในย่านฌองเซลิเซ่ ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พังร้านค้า ขว้างปาก้อนหินและสิ่งของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงใช้แก๊สน้ำตาเข้าระงับเหตุ เบื้องต้นมีรายงานว่า แฟนบอลเสียชีวิต 1 ราย
ขณะเดียวกันในเกมเมื่อคืนนี้ มีช่วงที่แฟนบอลวิ่งลงไปป่วนเกม ก่อนเจ้าหน้าที่จะรวบตัวออกจากสนาม โดยหนึ่งในนั้น มีผู้หญิงซึ่งเป็นสมาชิกนักร้องวงพังค์ของรัสเซีย ชื่อ พุสซี่ ไรอ็อต หลังจากถูกจับกุมตัว เพื่อนร่วมวงของเธออีก 3 คน ออกมาโพสต์คลิปในโซเชียล ระบุว่า พวกเธออยู่เบื้องหลังการก่อเหตุทั้งหมด เพราะต้องการที่จะต่อต้าน วลาดิเมียร์ ปูติน และเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจจับกุมประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และเป็นวันครบรอบ 11 ปี การจากไปของนักกวีชาวรัสเซียที่เคยถูกจับ เพราะขึ้นแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และต่อต้านปูติน ทำให้พวกเธอไม่พอใจ และต้องการใช้ฟุตบอลโลกเป็นพื้นที่แสดงออกในการต่อต้านครั้งนี้
สถิติหลังเกมที่น่าสนใจ-รางวัลยอดเยี่ยม
-ฝรั่งเศส ทีมแรกที่ยิงได้ 4 ประตูในนัดชิงในรอบ 48 ปี หลังจากที่บราซิล เคยชนะ อิตาลี 4-1 เมื่อปี 1970
-โครเอเชีย ทีมแรกที่แพ้ในการเข้าชิงครั้งแรก ในรอบ 44 ปี นับตั้งแต่ เนเธอแลนด์ เข้าชิง ในปี 1974 และแพ้เยอรมนี 1-2 (ในปีนั้น เยอรมนี คว้าแชมป์โลกสมัยที่2)
-มานด์ซูคิช ทำเข้าประตูตัวเองในนัดชิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลก และทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้มีการทำเข้าประตูตัวเองมากที่สุด 12 ประตู แต่ มานด์ซูคิช ก็เป็นผู้เล่นคนที่ 2 ที่ทำเข้าประตูตัวเอง แล้วกลับมายิงให้ทีมได้ ต่อจาก เอร์นีย์ บรันด์ส ทำได้กับเนเธอร์แลนด์ พบกับ อิตาลี ในปี 1978
-ป็อกบา แข้งแมนฯยูไนเต็ดคนแรก ที่ยิงประตูในนัดชิงฟุตบอลโลก และเป็นนักเตะในพรีเมียร์ลีกคนแรกที่ทำได้ ต่อจาก เอ็มมานูเอล เปอตีต์ ที่ยิงในนัดชิงปี 1998
-โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าฝรั่งเศส แม้จะจบด้วยการคว้าแชมป์ แต่ไม่สามารถล้างสถิติเท้าบอดได้ หลังลงสนาม 546 นาที ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว
นอกจากนี้ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมปีนี้ เป็นของ ลูก้า โมดริช กัปตันทีมโครเอเชีย ส่วน คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ คว้านักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม และยังทำสถิติเป็นนักเตะฝรั่งเศสอายุน้อยที่ทำประตูในนัดชิง ในวัย 19 ปี เป็นรอง เปเล่ ตำนานทีมชาติบราซิล ที่เคยยิงประตูในนัดชิง1958 ด้วยวัย 17 ปี คนต่อมา แฮรี่ เคน ครองดาวซัลโวตามคาด หลังทำไป 6 ประตู และเป็นแข้งอังกฤษคนที่ 2 ต่อจาก แกรี่ ลินิเกอร์ ที่เคยทำได้ 6 ประตูเท่ากัน เมื่อปี 1986 และสุดท้ายผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ติโบต์ กูร์กตัวส์ และ ทีมแฟร์เพลย์เป็นของทีมชาติสเปน