สำนักข่าว BBC รายงานว่า จากข้อมูลของบริษัทประกัน JLT Specialty พรีเมียร์ลีกเสียเงินค่ารักษาอาการบาดเจ็บและค่าเหนื่อยให้นักเตะ ฤดูกาล 2017/18 ไปมากถึง 217 ล้านปอนด์ (9.42 พันล้านบาท) โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มขึ้นจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วถึง 21% ตรงกันข้ามกับจำนวนอาการบาดเจ็บที่ลดลงจาก 735 ครั้ง เป็น 663 ครั้งในบรรดาการบาดเจ็บทั้งหมด “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เป็นสโมสรที่มีนักเตะบาดเจ็บมากที่สุด คือ 54 ครั้งในฤดูกาลที่แล้ว เป็นจำนวนที่มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก และจ่ายเงินค่ารักษารวมสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ที่ 1.93 ล้านปอนด์ (ราว 83 ล้านบาท)
สำหรับอันดับที่ 1 ที่จ่ายเงินค่ารักษาอาการบาดเจ็บนักเตะไปมากที่สุดก็คือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะเกิดอาการบาดเจ็บเพียง 37 ครั้งเท่านั้น แต่กลับต้องเสียเงินค่ารักษารวมไปมากถึง 2.33 ล้านปอนด์ (ราว 101 ล้านบาท)
ขณะที่แชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่แล้วอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำสถิตดีมากด้วยการเสียค่าใช้จ่ายเพื่อรักษานักเตะได้น้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 คือ 24 ครั้ง เท่ากันกับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ขณะที่ “นกนางนวล” ไบรท์ตัน มีนักเตะบาดเจ็บน้อยที่สุด คือ 15 ครั้ง และจ่ายค่าเหนื่อยน้อยที่สุดด้วย เพราะจ่ายรวมเพียง 3 ล้านปอนด์ (ราว 13 ล้านบาท) เท่านั้น
ฤดูกาล 2017/18 ที่ผ่านมา ผู้เล่นเกิดอาการบาดเจ็บรวมแล้วทั้งสิ้น 663 ครั้ง โดยพบว่าอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายเป็นอาการบาดเจ็บที่พบมากที่สุด ขณะที่อาการบาดเจ็บที่ค่ารักษาเฉลี่ยแพงที่สุดคือที่เข่า ราคาเฉลี่ยต่อการรักษาหนึ่งครั้งอยู่ที่ 613,402 ปอนด์ (ราว 26.6 ล้านบาท)
ด้าน นายดันแคน เฟรเซอร์ หัวหน้าฝ่ายกีฬาของ JLT บอกว่า “มันน่าสนใจว่า จะมีผลจากฟุตบอลโลกเกิดขึ้นอย่างไรบ้างต่ออัตราอาการบาดเจ็บในฤดูกาลที่จะถึงนี้ เพราะจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าทีมมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บมากขึ้นหลังจากการแข่งขันระหว่างประเทศมากกว่าในช่วงปีที่ไม่มีฟุตบอลโลก ซึ่งหากแนวโน้มนี้เป็นจริง ทีมงานคาดว่าจะเห็นปริมาณการบาดเจ็บและต้นทุนค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น"