มูรินโญ่ เปลี่ยนผู้เล่นถึง 7 ตำแหน่ง ดร็อปป็อกบาและลูกากูเป็นตัวสำรอง ส่วนอาร์เซน่อล กำลังมั่นใจ ไม่แพ้ใคร 19 นัดรวมทุกรายการ
นาที 26 อาร์เซน่อล ขึ้นนำก่อนจากลูกเตะมุม มุสตาฟี่ ทิ้งตัวโหม่ง ปัดบอลลอยเข้าประตู แม้ เอร์เรร่า จะเตะสกัดบอลออกมา แต่ว่าโกล์ไลน์ก็ยืนยันว่าบอลข้ามเส้นเข้าไปแล้ว แต่ว่าอาร์เซน่อล ดีใจได้ไม่กี่นาที แมนฯยูไนเต็ด ก็ตามตีเสมอได้จากลูกฟรีคิกของโรโฮ บอลพุ่งจะเสียบเสา แม้ว่าเลโน่จะพุ่งปัดออกมาได้ แต่เอร์เรร่า ยังตามไปเก็บได้ทัน ปาดบอลจากเส้นหลังให้มาร์กซิยาล ซัดตุงตาข่าย
ครึ่งหลัง นาที 68 อาร์เซน่อล ขึ้นนำอีกครั้ง โรโฆ พลาดโดนตัดบอล แล้วเป็น มคิทาร์ยาน จ่ายบอลให้ ลากาแซตต์ กำลังจะง้างเท้ายิง แต่โรโฮ ตามไปเสียบบอลโดนเท้าลากาแซตต์ บอลไหลเข้าประตูไป แต่แค่นาทีถัดมา แมนฯยูไนเต็ด ตามตีเสมออีกครั้ง โคลาซินัค พลาดทำบอลลั่น มาเข้าทาง ลินการ์ด ซัดไม่พลาด จบเกมเสมอกันไป 2-2 ทำให้อาร์เซน่อล ยืดสถิติไม่แพ้ใครรวมทุกรายการเป็น 20 นัด ส่วนแมนยูไนเต็ด เสมอมา 3 นัดรวด และไม่ชนะใครในลีกมา 4 เกมติดแล้ว
เกมนี้ มีช็อตไฮไลท์ ที่แชร์ในโลกออนไลน์ เมื่อ เฟลไลนี่ ที่เป็นตัวสำรอง ได้ดวลกับ มัตเตโอ เกนดูซี่ ดาวรุ่งของอาร์เซน่อล ที่ไว้ทรงผม คล้ายเฟลไลนี่ ก่อนที่จัดตัดผม แล้วมีซ็อต เฟลไลนี่ ตัดฟาวล์ด้วยการใช้มือกระชากผม พอแฟนบอลเห็น ก็โพสต์แซวไปในทิศทางเดียวกันว่า เฟลไลนี่ ต้องการทรงผมตัวเองกลับมา
หลังเกม มูรินโญ่ บอกว่า การเสีย 2 ลูกในนัดนี้ ไม่ควรเกิดขึ้น และเป็นสิ่งที่แย่มากๆ ทีมควรชนะ แต่พลาด 2 ครั้งสำคัญ เสีย 2 ประตู ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามสวนกลับแล้วผ่านบอลง่ายๆ เสียการครองบอลง่ายๆ และเสียสิ่งที่ไม่ควรจะให้เกิดขึ้น
ส่วนเอเมอรี่ บอกว่าภูมิใจมากๆกับผลงานของนักเตะ ทีมต้องการคว้าชัยชนะแต่ก็รู้สึกว่า 1 คะแนนนี้เป็นเรื่องดี แต่ก็เสียดาย ทั้งที่ครึ่งหลัง ทีมเราครองบอลเหนือกว่าชัดเจน มีโอกาสชนะ แต่ก็พลาดเสียประตูตีเสมอเร็วเกินไป
